วันนี้ (13 ธ.ค.62) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1/2562 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำบริหารจัดการน้ำอุปโภคบริโภคต่าง ๆ น้ำด้านการเกษตร และน้ำต้นทุน ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน รวมทั้งดูแลให้มีน้ำประปาใช้ครอบคลุมทุกจังหวัด เตรียมหาแหล่งน้ำและปรับปรุงฟื้นฟูพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น การขุดลอกคูคลอง การทำแก้มลิง ฯลฯ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ให้เพียงพอในช่วงฤดูแล้งป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำ พร้อมให้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการนำน้ำรีไซเคิลหรือน้ำที่บำบัดแล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและน้ำให้ได้อย่างยั่งยืนตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูการสร้างถนน เส้นทางรถไฟ อาคารบ้านเรือน และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ต้องไม่ให้ไปกีดขวางทางน้ำ สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการทำงานที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ การขุดเจาะน้ำบาดาล และการดูแลแหล่งน้ำร่วมกันทั้งแผนงาน/โครงการ งบประมาณ ให้ชัดเจนสอดคล้อง ดำเนินการเป็นไปตามลำดับความสำคัญเร่งด่วน เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศทั้งระบบไม่เกิดความช้ำซ้อน และเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเตรียมแหล่งน้ำใต้ดิน การขุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำ และให้มีติดตามประเมินผลการทำงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา และพิจารณาแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานในระยะต่อไป ประกอบด้วยการกำหนดกรอบแนวทางการขับเคลื่อนกลยุทธ์ การแต่งตั้งคณะทำงานภายใต้คณะอนุกรรมการฯ แผนแม่บทน้ำฯ การกำหนดกรอบปฏิทินในการดำเนินงาน ตลอดจนการพิจารณาแผนปฏิบัติการของหน่วยงานภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ประกอบด้วย แผนปฏิบัติการด้านการจัดการน้ำเสียชุมชน ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) โดยองค์การจัดการน้ำเสีย ส่งเสริมให้จัดสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียชุมชนในเขตพื้นที่เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการและมอบหมายให้องค์การจัดการน้ำเสียดำเนินการตามขั้นตอน กฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่เป็นภารกิจถ่ายโอนภารกิจ ต้องเสนอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาให้ความเห็นชอบ หรือจัดทำกรอบความร่วมมือระหว่างในการดำเนินการ (MOU) ต่อไป เพื่อเป็นไปตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
พร้อมทั้งที่ประชุมได้พิจารณาโครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2562 และ ปี 2563 โดยการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบผลิต ระบบส่งน้ำ และระบบจ่ายน้ำประปาในพื้นที่ที่ประสบปัญหา ให้สามารถบริการน้ำประปาแก่ประชาชนเพิ่มขึ้นในอีก 10 ปี ข้างหน้าอย่างพอเพียง โดยที่ประชุมมอบหมายให้ กปภ. กลับไปจัดทำรายละเอียดของแผนปฏิบัติการเพิ่มเติม และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมแหล่งน้ำต้นทุนให้เพียงพอและชัดเจนยิ่งขึ้น
สำหรับโครงการเพิ่มน้ำต้นทุนและระบบกระจายน้ำเพื่อสนับสนุนแผนปฏิบัติการฟื้นฟูเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัยฝนทิ้งช่วงและอุทกภัย ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมทรัพยากรน้ำ นั้น ที่ประชุมมอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำกลับไปปรับปรุงรายละเอียดในส่วนที่รับผิดชอบเพิ่มเติมให้มีความรอบคอบและรัดกุมยิ่งขึ้น ก่อนเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาอีกครั้งในการประชุมวันที่ 20 ธันวาคม 2562 นี้
ในตอนท้าย รองนายกรัฐมนตรีขอให้ทุกหน่วยงานด้านน้ำร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนแผนงานภายใต้แผนแม่บทน้ำ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามยุทธศาสตร์ชาติ ในการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อแก้ไขปัญหา และสร้างความมั่นคง ยั่งยืน ด้านน้ำ ให้กับประชาชนต่อไป
_____________
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th