คณะกรรมาธิการยุโรปยืนยันการสนับสนุนไทยในการกลับสู่ประชาธิปไตย และจะเพิ่มระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอียูให้แน่นแฟ้นมากขี้น
วันนี้ เวลา 14.00 น. คณะกรรมาธิการยุโรป European Commission เข้าเยี่ยมคารวะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์เมืองไทยและนโยบายสำคัญของรัฐบาล ประกอบไปด้วย นาย เอ็นเน็กโก ลันดาบูรู (Eneko Landaburu) ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการยุโรป และนาย ฟรีดรีช ฮัมเบอร์เกอร์ (Mr.Friedrich Hamburger) เอกอัครราชทูต/หัวหน้าสำนักงานคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะกรรมาธิการยุโรป โดยเฉพาะนายลันดาบูรู ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก และแสดงความขอบคุณการแถลงการณ์ของประธานสหภาพยุโรปต่อการเลือกตั้งของไทยที่ผ่านมา รวมทั้งสารแสดงความยินดีจาก นาย Manuel Barroso ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปในโอกาสเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีถือโอกาสนี้กล่าวเชิญชวนประธานกรรมาธิการยุโรปมาเยือนประเทศไทย และย้ำว่าประเทศไทยได้กลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย มีรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า สหภาพยุโรปมีความยินดีอย่างมากที่ได้เห็นการพัฒนาการทางการเมืองของไทยและทำให้สามารถพิจารณาเพิ่มระดับความสัมพันธ์ไทย-อียู รวมถึงความร่วมมือระหว่างไทยกับประชาคมยุโรป (PCA) ที่อียูพร้อมจะขยายสาขาความร่วมมือเพิ่มขึ้นในอีกหลายสาขา
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมาธิการยุโรปได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สหภาพยุโรป (ASEAN-EU FTA) ทั้ง 2 ระดับ คือ ระดับทวิภาคี ไทย-อียูและอาเซียนกับอียู ซึ่งเป็นการสนับสนุนการค้าเสรีในระบบเศรษฐกิจโลก โดยนายลันดาบูรู กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จของ ASEAN-EU FTA จะทำให้ประเทศอื่นๆ อาทิ จีนและญี่ปุ่น เห็นถึงอำนาจต่อรองและความสำคัญทางการค้าของอาเซียนและอียูอีกด้วย
ระหว่างการสนทนาทั้งสองฝ่าย ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลายประเด็น อาทิ สถานการณ์ในพม่า การรวมตัวกันของอียู สมาชิกภาพ รวมทั้งความสำเร็จในการรวมตัวกันของสหภาพยุโรป ซึ่งมีเอกภาพในความแตกต่าง (united in diversity) และสามารถสร้างบทบาทสำคัญในโลก รวมทั้งความร่วมมือระหว่างไทย-อียู เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ๆของโลกอาทิ สภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change)
ในโอกาสนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปขอให้ประเทศไทยพิจารณาปรับปรุงกฏระเบียบในการลงทุนของต่างชาติ และการสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีในประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักลงทุนในสหภาพยุโรปให้มาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นและย้ำว่า การกลับมาสู่ประชาธิปไตยของไทย จะทำให้ไทยและสหภาพยุโรปมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกว่าเดิม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.00 น. คณะกรรมาธิการยุโรป European Commission เข้าเยี่ยมคารวะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์เมืองไทยและนโยบายสำคัญของรัฐบาล ประกอบไปด้วย นาย เอ็นเน็กโก ลันดาบูรู (Eneko Landaburu) ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการยุโรป และนาย ฟรีดรีช ฮัมเบอร์เกอร์ (Mr.Friedrich Hamburger) เอกอัครราชทูต/หัวหน้าสำนักงานคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะกรรมาธิการยุโรป โดยเฉพาะนายลันดาบูรู ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก และแสดงความขอบคุณการแถลงการณ์ของประธานสหภาพยุโรปต่อการเลือกตั้งของไทยที่ผ่านมา รวมทั้งสารแสดงความยินดีจาก นาย Manuel Barroso ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปในโอกาสเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีถือโอกาสนี้กล่าวเชิญชวนประธานกรรมาธิการยุโรปมาเยือนประเทศไทย และย้ำว่าประเทศไทยได้กลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย มีรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า สหภาพยุโรปมีความยินดีอย่างมากที่ได้เห็นการพัฒนาการทางการเมืองของไทยและทำให้สามารถพิจารณาเพิ่มระดับความสัมพันธ์ไทย-อียู รวมถึงความร่วมมือระหว่างไทยกับประชาคมยุโรป (PCA) ที่อียูพร้อมจะขยายสาขาความร่วมมือเพิ่มขึ้นในอีกหลายสาขา
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมาธิการยุโรปได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สหภาพยุโรป (ASEAN-EU FTA) ทั้ง 2 ระดับ คือ ระดับทวิภาคี ไทย-อียูและอาเซียนกับอียู ซึ่งเป็นการสนับสนุนการค้าเสรีในระบบเศรษฐกิจโลก โดยนายลันดาบูรู กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จของ ASEAN-EU FTA จะทำให้ประเทศอื่นๆ อาทิ จีนและญี่ปุ่น เห็นถึงอำนาจต่อรองและความสำคัญทางการค้าของอาเซียนและอียูอีกด้วย
ระหว่างการสนทนาทั้งสองฝ่าย ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลายประเด็น อาทิ สถานการณ์ในพม่า การรวมตัวกันของอียู สมาชิกภาพ รวมทั้งความสำเร็จในการรวมตัวกันของสหภาพยุโรป ซึ่งมีเอกภาพในความแตกต่าง (united in diversity) และสามารถสร้างบทบาทสำคัญในโลก รวมทั้งความร่วมมือระหว่างไทย-อียู เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ๆของโลกอาทิ สภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change)
ในโอกาสนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปขอให้ประเทศไทยพิจารณาปรับปรุงกฏระเบียบในการลงทุนของต่างชาติ และการสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีในประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักลงทุนในสหภาพยุโรปให้มาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้นและย้ำว่า การกลับมาสู่ประชาธิปไตยของไทย จะทำให้ไทยและสหภาพยุโรปมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกว่าเดิม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--