นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในขณะนี้
วันนี้ เวลา 13.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องปกติของรัฐบาลแต่ละชุดที่เข้ามาสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันปฏิบัติหน้าที่ การปรับย้ายตำแหน่งของข้าราชการระดับกลางหรือระดับสูงก็ตาม ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ รัฐบาลชุดก่อน ๆ ก็มีปรากฏการณ์นี้ โดยส่วนตัวคิดว่าการปรับย้ายข้าราชการในการทำงานให้กับรัฐบาล ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับรัฐบาลในเรื่องความมั่นคงหรือเสถียรภาพ เพราะรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงหรือนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน และเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อการดำเนินการทุกประการของรัฐบาล จึงเป็นธรรมดาที่เมื่อรัฐบาลเข้ามาปฏิบัติงาน การจัดทัพจัดทีมข้าราชการให้สอดคล้องเหมาะสมกับภารกิจ แนวคิด นโยบาย และวิสัยทัศน์ของรัฐมนตรี ตลอดจนคณะผู้บริหารก็เป็นเรื่องจำเป็น ขอให้รอดูที่ผลงานก่อนว่าถ้าการขยับปรับย้ายแล้วทำให้รัฐบาลสร้างผลงานออกมาได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม ก็เป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนน่าจะให้โอกาสกับรัฐบาล ขณะเดียวกัน ถ้าการปรับย้ายภายใต้ตัวบทกฎหมาย แล้วส่งผลให้การทำงานของรัฐบาลไม่มีรูปธรรมชัดเจน หรือมีปัญหาสะดุดติดขัด ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนจะตั้งข้อสังเกต ตั้งคำถาม แล้วรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบในที่สุด
“ ในชั้นนี้ผมคิดว่าต้องให้โอกาสรัฐบาลในการจัดทัพ จัดทีม และรอผลงานออกมาก่อน ต้องพูดกันตรงไปตรงมาว่าในกระบวนการบริหารงาน ข้าราชการท่านต่าง ๆ ที่ขยับขึ้นมาจนถึงระดับอธิบดีหรือผู้นำในองค์กรต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่เคยเป็นผู้ร่วมงานกับบุคคลในรัฐบาลแต่ละชุด ท่านอธิบดีปราโมชฯ ก็เคยเป็นรองอธิบดีฯ เคยเป็นผู้ตรวจฯ มา ก็อยู่ในยุคสมัยต่าง ๆ ได้เคยร่วมงานกัน และไม่มีอะไรที่จะต้องไปคิดไปแค้นกัน คงไม่เป็นเช่นนั้น ขอเรียนว่าการขยับปรับย้ายของรัฐมนตรีผู้เป็นเจ้ากระทรวงในแต่ละตำแหน่ง ท่านรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่าทำตามกระบวนการ ตามข้อบังคับข้อกำหนดของกฎหมาย ฉะนั้นหากจะมีการร้องเรียน หรือข้าราชการท่านใดมีข้อสงสัย และอยากที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม ก็สามารถจะทำได้ภายใต้กรอบกฎหมายเช่นเดียวกัน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 13.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องปกติของรัฐบาลแต่ละชุดที่เข้ามาสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันปฏิบัติหน้าที่ การปรับย้ายตำแหน่งของข้าราชการระดับกลางหรือระดับสูงก็ตาม ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ รัฐบาลชุดก่อน ๆ ก็มีปรากฏการณ์นี้ โดยส่วนตัวคิดว่าการปรับย้ายข้าราชการในการทำงานให้กับรัฐบาล ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับรัฐบาลในเรื่องความมั่นคงหรือเสถียรภาพ เพราะรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงหรือนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน และเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงต่อการดำเนินการทุกประการของรัฐบาล จึงเป็นธรรมดาที่เมื่อรัฐบาลเข้ามาปฏิบัติงาน การจัดทัพจัดทีมข้าราชการให้สอดคล้องเหมาะสมกับภารกิจ แนวคิด นโยบาย และวิสัยทัศน์ของรัฐมนตรี ตลอดจนคณะผู้บริหารก็เป็นเรื่องจำเป็น ขอให้รอดูที่ผลงานก่อนว่าถ้าการขยับปรับย้ายแล้วทำให้รัฐบาลสร้างผลงานออกมาได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม ก็เป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนน่าจะให้โอกาสกับรัฐบาล ขณะเดียวกัน ถ้าการปรับย้ายภายใต้ตัวบทกฎหมาย แล้วส่งผลให้การทำงานของรัฐบาลไม่มีรูปธรรมชัดเจน หรือมีปัญหาสะดุดติดขัด ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนจะตั้งข้อสังเกต ตั้งคำถาม แล้วรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบในที่สุด
“ ในชั้นนี้ผมคิดว่าต้องให้โอกาสรัฐบาลในการจัดทัพ จัดทีม และรอผลงานออกมาก่อน ต้องพูดกันตรงไปตรงมาว่าในกระบวนการบริหารงาน ข้าราชการท่านต่าง ๆ ที่ขยับขึ้นมาจนถึงระดับอธิบดีหรือผู้นำในองค์กรต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่เคยเป็นผู้ร่วมงานกับบุคคลในรัฐบาลแต่ละชุด ท่านอธิบดีปราโมชฯ ก็เคยเป็นรองอธิบดีฯ เคยเป็นผู้ตรวจฯ มา ก็อยู่ในยุคสมัยต่าง ๆ ได้เคยร่วมงานกัน และไม่มีอะไรที่จะต้องไปคิดไปแค้นกัน คงไม่เป็นเช่นนั้น ขอเรียนว่าการขยับปรับย้ายของรัฐมนตรีผู้เป็นเจ้ากระทรวงในแต่ละตำแหน่ง ท่านรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่าทำตามกระบวนการ ตามข้อบังคับข้อกำหนดของกฎหมาย ฉะนั้นหากจะมีการร้องเรียน หรือข้าราชการท่านใดมีข้อสงสัย และอยากที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม ก็สามารถจะทำได้ภายใต้กรอบกฎหมายเช่นเดียวกัน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--