รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตรฯ เน้นย้ำทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

ข่าวทั่วไป Thursday January 23, 2020 14:31 —สำนักโฆษก

พลเอก ประวิตรฯ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เน้นย้ำทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

วันนี้ (23 มกราคม 2563) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถนนพระราม 6 เขตพญาไท กรุงเทพฯ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรุงเทพมหานคร ฯลฯ โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย

ภายหลังการประชุม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เพื่อสั่งการและกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแล้ว และบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเคร่งครัดตามแผนฯ ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจจับรถยนต์และรถโดยสารที่ปล่อยควันดำอย่างจริงจังครอบคลุมทุกพื้นที่ (โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ และกรุงเทพมหานครในดำเนินการดังกล่าว) รวมทั้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งคณะทำงานและวอร์รูม (War Room) ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างใกล้ชิด และรายงานชี้แจ้งข้อมูลและสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้เข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เพื่อให้ประชาชนได้ปฏิบัติตัวเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่าขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามแผนฯ ในแต่ละระดับที่กำหนดไว้สอดคล้องสถานการณ์ค่าความเข้มข้นของฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมให้มีการเพิ่มจำนวนอุปกรณ์ในการตรวจวัดควันดำให้เพียงพอในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้มีการติดตามการดำเนินงานอย่าต่อเนื่องให้การปฏิบัติเป็นไปตามเป้าหมายและแผนที่กำหนดไว้ ส่วนกรณีที่มีการเผาต่าง ๆ รวมถึงการเผาไร่อ้อยนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในแต่ละพื้นที่พิจารณาสั่งการและดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง และให้เจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกับประชาชนทุกฝ่ายเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ให้ลดน้อยลง ทั้งนี้ หากสถานการณ์ระดับที่ PM 2.5 มากกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือเข้าขั้นวิกฤต นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานด้วยตนเอง

****************

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ