ไทย-มาเลเซีย พร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกันมากขึ้น
วันนี้ (27 มกราคม 2563) เวลา 14.00 น. ณ ห้องนารี 2 ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ดาโตะ โจจี แซมูเอล (H.E. Dato’ Jojie Samuel) เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแนะนำตัวเนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ ยินดีที่มีโอกาสได้พบกันในวันนี้ พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียที่มีความใกล้ชิดกันมากขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะภายหลังการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ ตุน ดร.มหาธีร์ บิน โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว
เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบ รู้สึกยินดีที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ยืนยันไทยเป็นมิตรประเทศที่สำคัญของมาเลเซียตลอดมา มาเลเซียพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลไทยเพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างกันให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ตลอดจนยินดีที่ไทยกับมาเลเซียจะมีการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (Thailand-Malaysia Joint Commission for Bilateral Cooperation-JC) ครั้งที่ 14 ในปีนี้ที่กรุงเทพฯ และในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่าการจัดการประชุมประจำปี (Annual Consultation-AC) ระหว่างผู้นำจะเป็นประโยชน์และเป็นโอกาสเพื่อสานต่อความร่วมมืออันดีระหว่างกันต่อไป
ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทั้งไทยและมาเลเซียกำลังเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวเช่นกัน โดยในไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด 8 ราย รักษาหายแล้ว 5 ราย ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไทยมีมาตรการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก พร้อมยืนยัน รัฐบาลมั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ เชื่อมั่นในการดำเนินงานของรัฐบาล และประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุขไทย ซึ่งในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้มีความร่วมมือทางการแพทย์ระหว่างกันมากขึ้น
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายพร้อมขยายการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยรองนายกรัฐมนตรีขอให้เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ สนับสนุนการท่องเที่ยวไทยของชาวมาเลเซียมากขึ้น ขณะที่ไทยก็จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวมาเลเซียมากขึ้นเช่นกัน โดยรองนายกรัฐมนตรีเห็นว่ามาเลเซียมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามนอกเหนือจากเมืองกัวลาลัมเปอร์ และปีนัง ได้แก่ เมืองอีโปห์ มะละกา ซาราวัก ซาบาห์ และลังกาวี เป็นต้น ในตอนท้าย รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือมาเลเซียในส่วนที่รองนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบดูแล ได้แก่ ด้านการคมนาคม สาธารณสุข และการท่องเที่ยว เพื่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th