ไทย-สมาพันธรัฐสวิสฯ พร้อมผลักดันความร่วมมือระหว่างกันให้มีพลวัตมากขึ้นในทุกมิติ

ข่าวทั่วไป Monday February 3, 2020 14:45 —สำนักโฆษก

ไทย-สมาพันธรัฐสวิสฯ พร้อมผลักดันความร่วมมือระหว่างกันให้มีพลวัตมากขึ้นในทุกมิติ

วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2563) เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (H.E. Mrs. Helene Budliger Artieda) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ ยินดีที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสมาพันธรัฐสวิสฯ เป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิสฯ ที่มีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในระดับราชวงศ์ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ของเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น ตลอดจน เน้นย้ำว่า รัฐบาลพร้อมทำงานร่วมกับสมาพันธรัฐสวิสฯ เพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสฯ ขอบคุณรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบ ยืนยันพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างกันในทุกมิติ โดยเฉพาะทางด้านการค้า ที่ไทยถือเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอาเซียน ขณะเดียวกันเมื่อปี 2561 สมาพันธรัฐสวิสฯ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 15 ของไทย

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งเป็นด้านที่สมาพันธรัฐสวิสฯ มีความเชี่ยวชาญ โดยทั้งสองสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และบุคลากรระหว่างกัน โดยเฉพาะในสาขาเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการเงิน (Financial technology: Fintech) เทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robotics) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เป็นต้น ซึ่งทางสมาพันธรัฐสวิสฯ มีความเชี่ยวชาญ ด้านการท่องเที่ยว ไทยและสมาพันธรัฐสวิสฯ หวังที่จะผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นหนึ่งในจุดหมายหลักในการท่องเที่ยวของกันและกัน โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และไทยให้ความสำคัญกับการดำเนินมาตรการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างเคร่งครัด ด้านการศึกษา ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับอุดมศึกษา และพร้อมสานต่อความร่วมมือระหว่างกันต่อไป โดยหวังว่าสถาบันการศึกษาอื่น ๆ ของสมาพันธรัฐสวิสฯ จะพิจารณาร่วมมือกับไทยมากขึ้น รวมถึงด้านธุรกิจ SMEs และ startup ซึ่งสมาพันธรัฐสวิสฯ เห็นว่า ไทยถือเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคในด้านนี้ โดยทั้งสองเห็นว่ามีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ