ไทย-ศรีลังกา พร้อมกระชับความร่วมมือระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี

ข่าวทั่วไป Monday February 3, 2020 14:46 —สำนักโฆษก

ไทย-ศรีลังกา พร้อมกระชับความร่วมมือระหว่างกันทั้งในระดับทวิภาคี และพหุภาคี

วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2563) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสมันตา เค ชยสุริยะ (H.E. Mrs. Samantha K. Jayasuriya) เอกอัครราชทูตศรีลังกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ และเชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์ของเอกอัครราชทูตจะส่งเสริมความสัมพันธ์ และกระชับความร่วมมือระหว่างไทยกับศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมระลึกถึงมิตรไมตรีและการต้อนรับที่อบอุ่นในระหว่างการเยือนศรีลังกาเมื่อปี 2561 โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลศรีลังกาที่ได้มอบหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์จากเมืองอนุราธปุระ ซึ่งนำมาปลูกไว้ที่วัดวชิรธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความใกล้ชิดระหว่างไทยกับศรีลังกา อันจะเป็นพื้นฐานในการสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้มีพลวัตยิ่งขึ้น

เอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งในประเทศไทย คนไทยมีความเป็นมิตร และชื่นชมรากฐานความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิติด้านศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน และมีวิถีชีวิตคล้ายกัน พร้อมกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงานในไทยเสมอมา เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ไทย – ศรีลังกา ดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยยืนยันว่าจะทำหน้าที่เสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างกันต่อไป ในโอกาสนี้ขอส่งความปรารถนาดีจากนายโคฑาภยะ ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกาถึงนายกรัฐมนตรี

ทั้งสองฝ่าย เห็นพ้องว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมามีความคืบหน้าด้านความสัมพันธ์หลายด้าน โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่นักลงทุนของไทยเข้าไปลงทุนในศรีลังกาในหลากหลายสาขา และขอให้รัฐบาลศรีลังกาช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนเพื่อดึงดูดนักลงทุนไทยเพิ่มขึ้น และขอให้อำนวยความสะดวก ดูแลนักลงทุนของไทยในศรีลังกา นอกจากนี้ ไทยพร้อมผลักดัน และหวังว่าจะมีการเจรจาความตกลง FTA ไทย-ศรีลังกา รอบที่ 3 เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยินดีพิจารณาให้การช่วยเหลือทางวิชาการ เพิ่มเติมจากกรอบที่มีความร่วมมืออยู่แล้ว อาทิ การพัฒนาชนบท ด้านการเกษตร ด้านประมง ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่ศรีลังกาประสบความสำเร็จในปฏิบัติการทำฝนเทียม โดยคำแนะนำจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตรของไทย

ในส่วนของความร่วมมือทวิภาคี นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่น และพร้อมให้ความร่วมมือที่ศรีลังกาเป็นประธานความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation:BIMSTEC) ในปีนี้ มั่นใจว่าการจัดการประชุม BIMSTEC ภายใต้การนำของศรีลังกาจะประสบผลสำเร็จ ส่งผลดีต่อความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคเอเชียใต้กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ครอบคลุมหลากมิติยิ่งขึ้น โดยเอกอัครราชทูตชื่นชมการเป็นประธานอาเซียนของไทยเมื่อปีที่ผ่านมา และศรีลังกาหวังว่าจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับอาเซียนมากขึ้นเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ