วันนี้ (18 ก.พ. 63) เวลา 8.30 น. ณ บริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เยี่ยมชมนิทรรศการประชาสัมพันธ์ผลงาน การขับเคลื่อนการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตร “พะเยาโมเดล” ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนิทรรศการผลงานวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น (Digital Startup) ด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (EdTech) โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาและคณะ เสนอผลงานการผลิตและการตลาดสินค้าข้าวหอมมะลิจังหวัดพะเยา ภายใต้แบรนด์ “ฮักพะเยา” ที่มีการปรับปรุงพัฒนาข้าวหอมมะลิเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าว รวมทั้งยังมีการสนับสนุนการไถกลบตอซังข้าว เพื่องดการเผาที่เป็นสาเหตุของ PM 2.5 อีกด้วย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนเกษตรกรอยากเห็นวิถีชีวิตของเกษตรกรที่ดีขึ้น วิธีการอย่างหนึ่งคือ การปรับเปลี่ยนการทำนาแปลงเล็กเปลี่ยนเป็นนาแปลงใหญ่ เน้นวางแผนการเพาะปลูกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและจัดระเบียบการเก็บเกี่ยวให้สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรกล
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น (Digital Startup) ด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (EdTech) เสนอผลงานประกอบด้วย Globlish แพลตฟอร์มการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพและหลากหลาย Inskru แพลตฟอร์มชุมชนสำหรับครูผู้สอนในการแลกเปลี่ยนแนวคิดการสอน เพื่อเปลี่ยนห้องเรียนให้มีความสุขและมีคุณภาพ Sati บริการฝึกขับรถขนาดใหญ่เสมือนจริง โดยการใช้ Digital Content ให้ผู้ฝึกได้รับการฝึกก่อนขับจริง เพื่อแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มสมรรถนะและฝีมือแรงงาน และ Skooldio แพลตฟอร์มพัฒนาทักษะ เพื่อสร้างสรรค์บุคลากรด้านเทคโนโลยี และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรในยุคดิจิทัล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความชื่นชมต่อผลงานที่ถูกพัฒนาโดยคนรุ่นใหม่ และรัฐบาลนั้นก็เน้นแก้ไขและปฎิรูปเรื่องการศึกษามาโดยตลอด ทั้งเยาวชนและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อสร้างความเป็นสากล รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยในชีวิตประจำวัน นายกรัฐมนตรียังเสนอแนะให้มีการต่อยอดเทคโนโลยีเพื่อประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านระบบการขนส่ง ด้านการเกษตร อีกด้วย
และก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายเทวัญ ลิปตพัลลภและนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้แทนธนาคารในสังกัดกระทรวงการคลัง มอบเงินบริจาคจำนวน 12 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุความรุนแรงที่จังหวัดนครราชสีมา แด่นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะนำไปสมทบเข้ากองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีน้ำใจช่วยเหลือกัน ซึ่งได้สั่งการให้มีการแยกหมวดหมู่การใช้เงินบริจาคให้ชัดเจน พร้อมสั่งให้มีการติดตามการบริจาคแก่ทายาทผู้เสียชีวิตให้ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ เงินบริจาคถือว่ามาจากประชาชนเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย
........................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th