วันนี้ (5 มีนาคม 2563) เวลา 15.15 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเปิดศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 เพื่อบูรณาการรวบรวม ประสานข้อมูลจากทุกส่วนราชการ จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูล รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ชี้แจงต่อสาธารณชนให้ปฏิบัติตามมาตรการที่สาธารณสุขกำหนด พร้อมเชิญบุคคล/ขอข้อมูลจากหน่วยงาน บุคคลที่เกี่ยวข้อง รับบริจาคเงิน สิ่งของตามระเบียบราชการ พร้อมทั้ง รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าของศูนย์ฯ ต่อนายกรัฐมนตรีทุกวัน โดยมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานศูนย์ฯ นายประทีป กีรติเรชา รองเลขาธิการรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะจัดตั้งที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีการเปิดศูนย์ในวันพรุ่งนี้ (6 มี.ค.63) และจะมีการแถลงข่าวทุกวันในเวลา 14.00 น. รวมทั้ง จะเปิดการทำการในวันเสาร์และอาทิตย์ด้วย ซึ่งหากมีสถานการณ์เร่งด่วน ฉุกเฉิน สามารถปรับเวลาแถลงข่าวได้ ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานรวบรวมข้อมูลและรับ- ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง หากมีประชาชนที่ต้องการสอบถามข้อมูลต่าง ๆ หรือร้องเรียน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 288 6070-4 หรือ 1111 นอกจากนี้ ยังได้มีการเชิญปลัดกระทรวงทุกกระทรวง มาร่วมประชุมหารือเพื่อทำความเข้าใจในการบูรณาการการทำงานร่วมกันอีกด้วย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวลวง หรือ Fake News และเรื่องที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิดจากกรณีเชื้อไวรัส COVID-19 ว่า เราจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามเรื่องนื้ โดยจะมีการประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้รีบดำเนินการ อย่างกรณีที่คนไทยเดินทางไปทำงานที่ประทศเกาหลี และจะเดินทางกลับมาประเทศไทย ทางศูนย์จะมีการเชิญกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงแรงงานมาให้ข้อมูลมาพูดคุยกันเกี่ยวกับกรณีนี้ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจ พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลพร้อมจะดูแลแรงงานคนไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ เพราะคนเหล่านี้คือคนไทย ฉะนั้น ถ้าหากมีการพบแรงงานอย่างนี้ที่ประเทศอื่น ๆ ก็ใช้มาตรการเดียวกับประเทศเกาหลี และดูว่าประเทศเหล่านั้นมีความเสี่ยงหรือไม่ จะมีจุดคัดกรองอย่างไร ซึ่งเป็นมาตรฐานของรัฐบาลอยู่แล้ว นอกจากนี้ การผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศ มีโรงงานที่ผลิตได้ 11 โรงงาน มีกำลังการผลิตเดือนละ 36 ล้านชิ้นต่อเดือน ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรให้กับ สาธารณสุขเพื่อจัดสรรให้กับโรงพยาบาลภาครัฐและภาคเอกชน และประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการ ให้ติดตามการปฏิบัติในการกระจายหน้ากาก ตั้งแต่กระบวนการผลิต การแจกจ่าย รวมทั้งการตรวจสอบย้อนกลับ ลงโทษผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจัง ให้ความรู้แก่ประชาชน รัฐบาลมีความห่วงใยขอให้ปฏิบัติตามมาตรการเพื่อดูแลตนเอง ห่างไกลจากการติดเชื้อ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึง เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่เดินทางกลับมาจาก หรือ เดินทางผ่าน หรือมีเส้นทางแวะผ่าน (Transit/Transfer) ประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 หรือ มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า COVID-19 และจำเป็นต้องสังเกตอาการให้ปฏิบัติงานภายในที่พัก 14 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา
………………………………
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th