นางวิมลวรรณ อุดมพร ประธานสมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์ และคณะ เข้าพบ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงปัญหาผลกระทบอันเนื่องมาจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางวิมลวรรณ อุดมพร ประธานสมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์ และคณะรวม 8 คน เข้าพบ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงปัญหาผลกระทบอันเนื่องมาจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โอกาสนี้ พล.ต.ท. วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาววีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมรับฟังด้วย
ประธานสมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์ และคณะ ได้ร่วมกันชี้แจงปัญหาผลกระทบอันเนื่องมาจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในหลายมาตรา อาทิ มาตรา 30 ที่บัญญัติว่าห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือลักษณะดังต่อไปนี้ (2) การเร่ขาย และ (5) โดยแจก แถม ให้หรือแลกเปลี่ยนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกับสินค้าอื่น หรือ การให้บริการอย่างอื่นแล้วแต่กรณี หรือแจกจ่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะเป็นตัวอย่างของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเป็นการจูงใจสาธารณชนให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวส่งผลกระทบเป็นอย่างมากกับผู้ผลิตไวน์ผลไม้โอท็อป เพราะไวน์โอท็อปมีช่องทางการจำหน่ายหลักด้วยการออกงานแสดงสินค้าโอท็อป ที่จัดว่าเป็นการเร่ขาย อีกทั้งต้องให้ผู้บริโภคได้ชิมไวน์ มิฉะนั้นผู้บริโภคก็จะไม่ซื้อสินค้า ซึ่งการชิมก็เข้าข่ายการแจกแถม และผู้ผลิตไวน์โอท็อปไม่ได้มีต้นทุนการผลิตและปัจจัยอื่นที่สามารถส่งเสริมสินค้าของตนได้เหมือนผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ พร้อมกันนี้ สมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์ ได้นำเสนอนโยบายในการแก้ไขปัญหาสังคมและเยาวชนต่อภาครัฐ โดยมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจให้น้อยที่สุด อาทิ การนำเอาสภาพความเป็นจริงที่เหมาะสมกับสภาพธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม ภัตตาคาร สถานบันเทิง ร้านค้าปลีกในปัจจุบันมาเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับพื้นที่ขาย วัน และเวลา ตลอดจนการส่งเสริมการขายและโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังผลกระทบเนื่องมาจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นต่าง ๆ ด้วยความสนใจ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีเข้าใจในปัญหาของสมาพันธ์ฯ ที่ได้มาร้องทุกข์ในวันนี้ ซึ่งในปัญหาข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว จึงขอให้ทางสมาพันธ์ฯ ได้รวบรวมสรุปเป็นเอกสาร ระบุปัญหาข้อต่าง ๆ ในมาตรานั้น ๆ ให้ชัดเจน แล้วนำส่งให้นายกรัฐมนตรีภายในวันนี้ เพื่อนายกรัฐมนตรีจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบและพิจารณาในสิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้ โดยจะส่งให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาเหตุผล เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการขอแก้ไขกฎหมายในสภาฯ ต่อไป ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณคณะสมาพันธ์ฯ ที่มาเข้าพบในวันนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างมาก และขอบคุณภาคเอกชนที่ไว้วางใจให้คนที่มาจากการเลือกตั้งได้ตรวจสอบ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องแง่กฎหมาย ที่มีการออกกฎหมายในสิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้ แล้วทำให้สังคมเดือดร้อนจึงต้องมีการช่วยแก้ไขให้ปฏิบัติได้
ทั้งนี้ สมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์ เป็นองค์กรที่สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาแอลกอฮอล์ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแอลกอ ฮอล์ ได้แก่ บริษัทผู้ผลิตและผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้จัดจำหน่าย สมาคมผู้ค้าปลีกแห่งประเทศไทย ผู้ทำโฆษณาและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมแห่งประเทศไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมท่องเที่ยว ผู้ประกอบการสถานบันเทิง สมาคมกีฬา และอื่นๆ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางวิมลวรรณ อุดมพร ประธานสมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์ และคณะรวม 8 คน เข้าพบ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงปัญหาผลกระทบอันเนื่องมาจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โอกาสนี้ พล.ต.ท. วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาววีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมรับฟังด้วย
ประธานสมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์ และคณะ ได้ร่วมกันชี้แจงปัญหาผลกระทบอันเนื่องมาจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในหลายมาตรา อาทิ มาตรา 30 ที่บัญญัติว่าห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือลักษณะดังต่อไปนี้ (2) การเร่ขาย และ (5) โดยแจก แถม ให้หรือแลกเปลี่ยนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกับสินค้าอื่น หรือ การให้บริการอย่างอื่นแล้วแต่กรณี หรือแจกจ่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะเป็นตัวอย่างของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเป็นการจูงใจสาธารณชนให้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวส่งผลกระทบเป็นอย่างมากกับผู้ผลิตไวน์ผลไม้โอท็อป เพราะไวน์โอท็อปมีช่องทางการจำหน่ายหลักด้วยการออกงานแสดงสินค้าโอท็อป ที่จัดว่าเป็นการเร่ขาย อีกทั้งต้องให้ผู้บริโภคได้ชิมไวน์ มิฉะนั้นผู้บริโภคก็จะไม่ซื้อสินค้า ซึ่งการชิมก็เข้าข่ายการแจกแถม และผู้ผลิตไวน์โอท็อปไม่ได้มีต้นทุนการผลิตและปัจจัยอื่นที่สามารถส่งเสริมสินค้าของตนได้เหมือนผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ พร้อมกันนี้ สมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์ ได้นำเสนอนโยบายในการแก้ไขปัญหาสังคมและเยาวชนต่อภาครัฐ โดยมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจให้น้อยที่สุด อาทิ การนำเอาสภาพความเป็นจริงที่เหมาะสมกับสภาพธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม ภัตตาคาร สถานบันเทิง ร้านค้าปลีกในปัจจุบันมาเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับพื้นที่ขาย วัน และเวลา ตลอดจนการส่งเสริมการขายและโฆษณาประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังผลกระทบเนื่องมาจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นต่าง ๆ ด้วยความสนใจ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีเข้าใจในปัญหาของสมาพันธ์ฯ ที่ได้มาร้องทุกข์ในวันนี้ ซึ่งในปัญหาข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว จึงขอให้ทางสมาพันธ์ฯ ได้รวบรวมสรุปเป็นเอกสาร ระบุปัญหาข้อต่าง ๆ ในมาตรานั้น ๆ ให้ชัดเจน แล้วนำส่งให้นายกรัฐมนตรีภายในวันนี้ เพื่อนายกรัฐมนตรีจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบและพิจารณาในสิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้ โดยจะส่งให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาเหตุผล เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการขอแก้ไขกฎหมายในสภาฯ ต่อไป ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณคณะสมาพันธ์ฯ ที่มาเข้าพบในวันนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่มีประโยชน์อย่างมาก และขอบคุณภาคเอกชนที่ไว้วางใจให้คนที่มาจากการเลือกตั้งได้ตรวจสอบ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องแง่กฎหมาย ที่มีการออกกฎหมายในสิ่งที่ปฏิบัติไม่ได้ แล้วทำให้สังคมเดือดร้อนจึงต้องมีการช่วยแก้ไขให้ปฏิบัติได้
ทั้งนี้ สมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์ เป็นองค์กรที่สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาแอลกอฮอล์ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแอลกอ ฮอล์ ได้แก่ บริษัทผู้ผลิตและผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้จัดจำหน่าย สมาคมผู้ค้าปลีกแห่งประเทศไทย ผู้ทำโฆษณาและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมแห่งประเทศไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมท่องเที่ยว ผู้ประกอบการสถานบันเทิง สมาคมกีฬา และอื่นๆ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--