แถลงความคืบหน้ารับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยืนยันไทยยังอยู่ระยะที่ 2 เน้นดำเนินมาตรการสอดคล้องกับสถานการณ์และระดับการแพร่ระบาดให้เหมาะสม

ข่าวทั่วไป Tuesday March 10, 2020 15:00 —สำนักโฆษก

แถลงความคืบหน้ารับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเด็นกระบวนการกระจายหน้ากากอนามัย การดูแลแรงงานไทย และมาตรการสาธารณสุขในการรับมือไวรัสโควิด-19 ในระยะต่อไป

วันนี้ (10 มีนาคม 2563) เวลา 12.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายไพศาล จารุรักษา ผู้จัดการโรงงาน Thai Hospital Product นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้ารับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาลโควิด-19 เสนอเส้นทางการกระจายหน้ากากอนามัย โดยมีนายไพศาล จารุรักษา ผู้จัดการโรงงาน Thai Hospital Product หนึ่งในผู้ผลิตหน้ากากอนามัยในไทยได้รายงานขั้นตอนการจัดส่งหน้ากากอนามัยว่า ปัจจุบันบริษัทได้จัดส่งหน้ากากอนามัยให้กับองค์การเภสัชกรรมเฉลี่ยประมาณ 350,000 ชิ้นต่อวัน เพื่อจัดสรรให้โรงพยาบาลทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมการค้าภายในเข้ามากำกับดูแล พร้อมบันทึกเอกสารเป็นหลักฐานที่ตรวจสอบได้ เพื่อให้แน่ใจว่าองค์การเภสัชกรรมจะได้รับหน้ากากอนามัยครบตามจำนวนที่ได้รับในแต่ละวัน จากนั้น นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวเสริมเมื่อได้รับจัดสรรหน้ากากอนามัย 350,000 ชิ้นต่อวัน องค์การเภสัชกรรมมีหน้าที่หลักในการดูแลโรงพยาบาลภาครัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อกระจายไป 12 เขตบริการ เขตละประมาณ 30,000 ชิ้นต่อวัน และภาครัฐอื่น ๆ ประมาณ 20,000 ชิ้นต่อวัน โดยคำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วน โดยได้ทยอยจัดส่งให้โรงพยาบาลภาครัฐแต่ละจังหวัดแล้ว เชื่อว่าสถานการณ์การขาดแคลนหน้ากากอนามัยจะคลี่คลายได้โดยเร็ว

ทั้งนี้ นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้เรื่อง COVID-19 แก่ประชาชน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศจัดอบรมการจัดทำหน้ากากอนามัยผ้าตามคำแนะนำของกรมอนามัย แก่อาสาสมัครและวิทยากรเพื่อนำไปสอนต่อให้ชาวบ้านและชุมชนแล้วกว่า 156,000 คน เป้าหมายที่ 50 ล้านชิ้น เพื่อประชาชนจะได้มีหน้ากากอนามัยทางเลือกใช้อย่างทั่วถึง

โอกาสนี้ รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึง กระทรวงแรงงานมีการประชุมทางไกล vdo conference กับทูตแรงงานทั้งหมด 12 ประเทศและแรงงานทุกจังหวัด รวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับสถานการณ์การว่างงานจากผลกระทบสภาวะโรคระบาด COVID-19 โดยดูแลแรงงานทั้ง 2 คือ แรงงานที่อยู่ในประเทศ โดยเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงบริษัทที่ได้รับผลกระทบแต่ยังไม่เลิกจ้าง อาจใช้มีมาตรการลดวันทำงานและจ่ายเงินเดือน 75 เปอร์เซ็นต์ ส่วนบริษัทที่ต้องการเลิกจ้าง กระทรวงแรงงานจะเข้าไปดูแลแรงงานและพยายามช่วยเหลือแมชชิ่งตำแหน่งงานที่ว่างอยู่ประมาณ 62,000 กว่าตำแหน่งขณะนี้ รวมทั้งการ ส่งเสริมการฝึกทักษะอื่นๆ ให้ตรงกับความต้องการของตำแหน่งงานที่ว่างอยู่ สำหรับแรงงานที่กลับมาจากต่างประเทศ ก็จะพยายามหางานให้หลังจากเสร็จสิ้นระยะเวลาเฝ้าระวังแล้ว รวมทั้งจัดอบรม เพิ่มทักษะต่างๆ กรณีแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย กระทรวงจะช่วยดูแลสิทธิที่พึงได้รับด้วย นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดความเดือดร้อนของนายจ้างและลูกจ้าง โดยลดเงินจ่ายให้แก่กองทุนประกันสังคม จากเดิมลูกจ้างจ่าย 5% นายจ้างจ่าย 5% เหลือ 4% ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง

พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้กล่าวภารกิจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีหน้าที่ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติของทุกหน่วยงาน ในการให้ข้อมูลผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศกับกรมควบคุมโรค จัดระบบตั้งแต่ประเทศต้นทาง มีการกรอกข้อมูลที่ออกแบบโดยกรมควบคุมโรค ชาวต่างชาติต้องกรอกข้อมูลการเข้าเมืองอย่างละเอียด ปัจจุบันเฉลี่ยมีผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงประมาณ 4,500 คนต่อวัน นอกจากนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในจังหวัดต่าง ๆ ยังทำงานร่วมกับเจ้าพนักงานควบคุมโรคระดับจังหวัดอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกัน

นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันมาตรการประเทศที่มีความเสี่ยงสูง คัดกรองดูแล เฝ้าระวังผู้โดยสารที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงใน 4 ประเทศ เกาหลี อิตาลี อิหร่าน จีน อย่างเข้มงวด สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ ไทยยังอยู่ในระดับที่ 2 โดยมีการติดเชื้อจากต่างประเทศ สามารถระบุที่มาของการแพร่ระบาดได้

ในช่วงท้ายของการแถลงข่าวนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในไทยยังอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ขณะเดียวกัน ได้มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุที่ชัดเจนใน 6 ประเด็น คือ 1.การเฝ้าระวังตรวจจับ 2.การติดตามผู้สัมผัสทุกราย 3.มาตรการดูแลผู้ป่วย ยา จุดคัดกรอง กำหนดโรงพยาบาลที่พร้อมจะให้การดูแลผู้ป่วย 4. ให้ความรู้ความเข้าใจ เปลี่ยนความกลัวเป็นความรู้ที่ถูกต้อง 5.มาตรการทางสังคม และมาตรการทางกฎหมาย 6. ระบบประสานสั่งการแลกเปลี่ยนข้อมูลของแต่ละหน่วยงานที่ชัดเจน ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าวให้ความมั่นใจว่า การดำเนินมาตรการของไทยสอดคล้องกับสถานการณ์และระดับการแพร่ระบาดอย่างเหมาะสม ซึ่งประชาชนสามารถให้ความร่วมมือในป้องกันและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส โดยการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย”ได้

.....................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ