กระทรวงเกษตรฯ วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนกซื้อไข่ไก่ กักตุนในครัวเรือนมากเกินควร โดยขณะนี้ได้ออกมาตรการชะลอการส่งออกไข่ไก่สดไปจำหน่ายต่างประเทศทุกประเทศ และให้ฟาร์มไก่ไข่ยืดอายุการเลี้ยงแม่ไก่ไข่ยืนกรงออกไป เพื่อเพิ่มปริมาณไข่ไก่ในตลาดภายในประเทศ พร้อมส่งสารวัตรกรมปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์รวบรวมและสถานที่จำหน่ายไข่ไก่สดเข้มงวด จนกว่าสถานการณ์ไข่ไก่สดขาดตลาดในประเทศจะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกระแสที่ประชาชนหาซื้อไข่ไก่สดได้ยากลำบาก มีราคาแพง จนมีผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนนั้น โดยก่อนหน้าที่จะมีกระแสประชาชนตื่นตระหนกและซื้อไข่สดเพื่อกักตุนสำรองใช้บริโภค กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์สำรวจข้อมูลพบว่า มีแม่ไก่ไข่ยืนกรงประมาณ 49 ล้านตัว ให้ผลผลิตไข่สดประมาณ 41 ล้านฟองต่อวัน โดยอัตราการบริโภคไข่สดภายในประเทศ ประมาณ 39 ล้านฟองต่อวัน จึงมีไข่สดบางส่วนที่เกินความต้องการในประเทศ และผู้ประกอบการบางรายจำเป็นต้องส่งไข่ส่วนเกินออกไปจำหน่ายต่างประเทศ เพื่อไม่ให้ไข่ล้นตลาดและพ่อค้าคนกลางในประเทศกดราคารับซื้อ เป็นการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ในประเทศให้เกษตรกรพออยู่ได้ไม่ขาดทุนและไม่ทำให้ผู้บริโภคในประเทศเดือดร้อน
ทั้งนี้ เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดความตื่นตระหนกของประชาชน จนเกิดกระแสการกักตุนไข่สด ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นในครัวเรือนทำให้ปริมาณความต้องการซื้อไข่สดเพิ่มขึ้น 3-5 เท่าตัวจากภาวะปกติ จนทำให้ปริมาณไข่ไก่สดขาดตลาด ประชาชนหาซื้อได้ยากขึ้นและมีราคาจำหน่ายปลีกแพงขึ้นแบบกระทันหัน และยังไม่มีแนวโน้มที่จะคลี่คลายลง ดังนั้นเพื่อป้องกันกระแสการกักตุนไข่ไก่สด หรือป้องกันราคาสินค้าไข่ไก่สดสูงเกินต้นทุนที่แท้จริง และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในขณะนี้ กระทรวงเกษตรฯได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ประสานเจรจาเป็นการเร่งด่วนขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการส่งออกไข่ไก่สด ในการชะลอการส่งออกไข่ไก่สดไปจำหน่ายยังต่างประเทศทุกประเทศ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยจะไม่มีการอนุญาตให้ส่งออก ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการชะลอการส่งออกไข่ไก่สด ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯสั่งการแล้ว กรมปศุสัตว์ยังแจ้งให้ฟาร์มไก่ไข่ทั่วประเทศยืดอายุการเลี้ยงแม่ไก่ยืนกรงออกไปตามที่แต่ละฟาร์มเห็นว่าเหมาะสม จากเดิมที่กำหนดให้ปลดแม่ไก่ยืนกรงที่อายุ 80 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตามกรมปศุสัตว์จะจัดส่งเจ้าหน้าที่สารวัตรกรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสอบตามศูนย์รวบรวมไข่ไก่ และสถานที่จำหน่ายไข่ไก่ ทั่วประเทศโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2559 เพื่อตรวจสอบปริมาณไข่ไก่ การเคลื่อนย้ายและแหล่งที่มาของไข่ไก่ อย่างเข้มงวด ทั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังมิให้มีการนำไข่ไก่ที่ไม่ทราบแหล่งที่มา รวมถึงไข่ไก่ที่ไม่สะอาดปลอดภัย แล้วนำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคด้วย
“หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ ต้องการร้องเรียน แจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โปรดแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่น (Application) "DLD 4.0" ที่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทั้งระบบ iOS ผ่าน App Store และระบบ Android ผ่าน Google play เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบการกระทำความผิดและดำเนินการ ตามกฎหมายได้อย่างทันท่วงที”อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th