วันนี้ (30 มีนาคม 2563) เวลา 09.30 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวย้ำในการประชุม ศบค. ว่าวันนี้ที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 136 คน อยากให้เปรียบเทียบสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อกับต่างประเทศ ไทยมีสถานการณ์ที่ดีกว่า ควบคุมได้ และรัฐบาลบังคับ คุมเข้มในทุกมาตรการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการเปรียบเทียบให้เห็นข้อเปรียบเทียบมาตรการควบคุม โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกคนใช้แอพลิเคชั่น Application ให้คุ้นเคย เพื่อให้เป็นส่วนช่วยเจ้าหน้าที่รัฐในการติดตามผู้ติดเชื้อ
ในส่วนของการเยียวยานายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงการคลัง รวบรวม และวิเคราะห์มาตรการเยียวยาเพื่อช่วยเหลือประชาชน ในแต่ละกลุ่ม แต่ละอาชีพ พร้อมให้มีการคุมเข้มในการดำเนินมาตรการต่างๆ และสั่งให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการคลัง รีบไปดำเนินการแก้ไข นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ให้ทำหนังสือแจกจ่ายไปยังระดับพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน
นายกรัฐมนตรีสั่งการกระทรวงมหาดไทยให้เข้มงวดในพื้นที่เสี่ยงทุกจุด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยรายงานว่า จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และภูเก็ต มีมาตรการควบคุมเข้มข้น ปิดการเข้าออก ปิดการเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะ หากเข้าออกด้วยรถยนต์ส่วนตัวต้องผ่านการตรวจสอบ และเข้ากระบวนการ Quarantine 14 วัน คนไทยทุกคนมีสิทธิ์เดินทางกลับประเทศไทย แต่ต้องมีการควบคุมคือจะต้องมีหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ และต้องมีเอกสาร fit to fly รวมทั้งต้องมาเข้ากระบวนการ Quarantine 14 วัน เช่นกัน ทั้งนี้ ต่อกรณีเอกสารนั้น จะมีข้อยกเว้นตามแต่ละกรณีตามความจำเป็น โดยมีปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้พิจารณา
ในส่วนของการกระจายหน้ากากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลอย่างชัดเจน รับหน้ากากจากจุดไหน ส่งกระจายไปยังจุดไหน เพื่อส่งไปยังส่วนสำคัญ บุคคลากรทางการแพทย์ ผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย ผู้ใกล้ชิดประชาชนในหน่วยงานต่างๆ ผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง พนักงานเก็บขยะ เจ้าหน้าที่จุดตรวจฯ และผู้ที่ผู้ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ผู้มีโรคประจำตัว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th