สมอ. แก้ไขมาตรฐานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ให้สอดคล้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 เร่งผู้ผลิตชุมชนทำสินค้าให้ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้ค้าบางรายฉวยโอกาสบนความเดือดร้อนของประชาชน นำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือปลอมออกมาขาย ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อน และสร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการที่ผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเป็นอย่างมาก ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศห้ามผลิต นำเข้า หรือขายเครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขอนามัยสำหรับมือ เพียงสารเดียวหรือผสมรวมกันต่ำกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2563 นั้น สมอ. ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้แก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ ซึ่งรวมถึงเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ที่กำหนดเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน มผช.เลขที่ 907/2554 อย่างเร่งด่วน เพื่อให้สอดคล้องตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข โดยแก้ไขเกณฑ์กำหนดส่วนผสมของแอลกอฮอล์ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร เนื่องจากมาตรฐานเดิมกำหนดให้อยู่ระหว่างร้อยละ 25.0 ถึง 69.0 โดยน้ำหนัก และได้แก้ไขหมายเลขมาตรฐาน จากเดิมเลขที่ มผช.907/2554 เป็น มผช.907/2563 ด้วย ทั้งนี้ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ มผช.907/2563 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563
เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้ผลิตชุมชน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถนำมาตรฐาน มผช.907/2563 ไปเป็นแนวทางในการผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้ โดยขอให้ท่านยื่นจดแจ้งกับกระทรวงสาธารณสุขตามกฎหมายก่อน หลังจากนั้นให้มายื่นขอการรับรองที่ สมอ. หรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tisi.go.th หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2202-3352, 0-2202-3397 กองบริหารมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน สมอ. สำหรับผู้ผลิตชุมชนจำนวน 2 ราย ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานเดิม จะต้องยื่นขอการรับรองตามมาตรฐานใหม่ เพื่อให้สามารถผลิต และขายได้อย่างต่อเนื่องต่อไป จึงขอฝากถึงประชาชนให้เลือกซื้อเจลแอลกอฮอล์ล้างมือด้วยความรอบคอบ เลือกที่ได้มาตรฐาน โดยได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัย”
ที่มา: http://www.thaigov.go.th