โฆษก ศบค. ยืนยันตัวอย่างการตรวจกว่า 100,498 ตัวอย่าง หากสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้รีบแจ้งข้อมูลได้ทั้งเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงาน หน่วยงานสาธารณสุขทุกแห่งพร้อมให้บริการ

ข่าวทั่วไป Tuesday April 14, 2020 15:16 —สำนักโฆษก

โฆษก ศบค. ยืนยันตัวอย่างการตรวจกว่า 100,498 ตัวอย่าง หากสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้รีบแจ้งข้อมูลได้ทั้งเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงาน หน่วยงานสาธารณสุขทุกแห่งพร้อมให้บริการ

วันนี้ (14 เม.ย. 2563) เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในนามโฆษก ศบค. ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนี้

โฆษก ศบค. ตอบกรณีผู้ป่วยที่สงสัยอาการของตนเองว่าจะจัดอยู่ในกลุ่ม PUI (Patient Under Investigation) และระบบการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของประเทศไทยมีการปรับเปลี่ยนให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายมากขึ้นแล้วหรือยัง โดยชี้แจงว่า PUI (patient Under Investigation) เป็นเกณฑ์การเฝ้าระวังและสอบสวนที่ใช้มาตลอด สำหรับผู้ป่วยที่มีความสงสัยที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค มีประวัติใกล้ชิดสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเพื่อต้องการที่จะดำเนินการตรวจหาเชื้อเพิ่มเติม สำหรับวิธีการตรวจสอบโรคโควิด-19 ในช่วงแรกนั้น มีขั้นตอนที่ยุ่งยากทำให้เกิดความล่าช้า รวมถึงเป็นโรคใหม่ที่ยังไม่มีวิธีการรักษาที่ชัดเจน ในขณะนี้ กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการให้ง่ายขึ้น โดยใช้ระบบอัตโนมัติในการเบิกจ่าย ตรวจสอบแล้วมีความถูกต้อง สอดคล้องกับงบประมาณ

ทั้งนี้ มีตัวเลขยืนยันตัวอย่างการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 3 เมษายน มีการตรวจไปแล้ว จำนวน 84,008 ตัวอย่าง และในวันที่ 4 - 10 เมษายน 63 ภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ จำนวนตัวอย่างเพิ่มขึ้น 16,490 ตัวอย่าง พบว่า จำนวนการตรวจ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 1 ของช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขสะสม ณ วันที่ 10 เมษายน มีการตรวจไปแล้ว จำนวน 100,498 ตัวอย่าง และยืนยันว่าจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ

โฆษก ศบค. ตอบข้อกังวลเกี่ยวกับมาตรการคัดกรองคนไทยเข้าประเทศ รวมถึงเรื่องของการปิดน่านฟ้าที่อาจเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 39 ที่ระบุไว้ว่าการห้ามคนสัญชาติไทยเดินทางเข้าประเทศไม่สามารถทำได้ อาจจะกระทบต่อการทำงานและประเด็นข้อกฎหมายในอนาคตหรือไม่ โดยยืนยันว่า ไม่มีการสั่งห้ามและยินดีต้อนรับพี่น้องคนไทยเดินทางกลับประเทศเสมอ ปัจจุบันนี้ยังมีเที่ยวบินเข้ามาอยู่ตลอด เพียงแต่ขอให้สังเกตอาการตนเองตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องบิน ระหว่างอยู่บนเครื่องบิน จนถึงเมื่อลงจากเครื่องบิน โดยขอให้ทยอยเดินทางกลับเข้ามา มาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ขัดต่อกฎหมายใด แต่เป็นการจัดระเบียบเพื่อดูแลประชาชนทั้งผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับ พร้อมๆกับดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยคนอื่นเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากขึ้น และเป็นการควบคุมตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้ออีกด้วย รวมถึงศักยภาพการดูแล โดยต้องมีการจัดบุคลากรทางแพทย์เพื่อไปดูแล รวมถึงการจัดห้องพักเพื่อเป็น State Quarantine ซึ่งแต่ละคนมีความต้องการแตกต่างกัน โดย ศบค. ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นหลักและดำเนินการภายใต้มาตรการสาธารณสุขเสมอ

กรณีคนขับรถโดยสารสาธารณะสาย 140 ที่ติดเชื้อและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2563 ด้วยโรคโควิด-19 นี้ ช่วงแรกอาจจะไม่รู้ว่าตนเองมีอาการ จึงไปทำงานหรือไปสังสรรค์กับเพื่อน เป็นเหตุทำให้เกิดการติดเชื้อได้ โฆษก ศบค. ได้แนะนำว่า หากทราบว่าติดเชื้อแล้วจะต้องรีบแจ้งข้อมูลแก่บุคคล หรือหน่วยงานใดก็ได้ ต่างจังหวัดสามารถแจ้งกับนายแพทย์ สสจ. ในฐานะที่เป็นสาธารณสุขประจำจังหวัดได้ ซึ่งจะทำให้ทีมสอบสวนโรคเข้าไปทำการสอบสวนโรคต่อได้ กรณีนี้พบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต ได้แก่ เพื่อนที่อยู่ในวงดื่มสังสรรค์จำนวน 9 คน เพื่อนที่ทำงานเดียวกันจำนวน 8 คน และเชื่อมโยงไปถึงผู้ร่วมงานจำนวน 20 คน ได้แก่ พนักงานเก็บค่าโดยสารในรถคันเดียวกัน พนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสารที่ได้เปลี่ยนช่วงเวลาทำงานต่อจากผู้ป่วย และกลุ่มผู้ที่ใกล้ชิดได้เข้ารับการตรวจสอบเชื้อทุกคนและอยู่ในขั้นตอนติดตามผล กรณีของประชาชนที่สงสัยว่าตนเองได้ใช้บริการรถเมล์สาธารณะสายดังกล่าว หากมีอาการลักษณะที่เข้ากับโรคโควิด-19 คือ ไอ มีไข้ เหนื่อยหอบ ขอให้รีบไปเข้ารับการตรวจ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนในสังคม ทางกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานสาธารณสุขทุกแห่งพร้อมให้บริการ

โฆษก ศบค. ได้กล่าวในช่วงท้ายว่า เนื่องในโอกาสวันครอบครัว (14 เมษายน) ครอบครัวเป็นพลังที่สำคัญที่สุด แต่การติดเชื้อก็มาจากครอบครัวมากที่สุดเช่นกัน จึงขอความร่วมมือ เว้นระยะห่างทางกายกับคนในครอบครัว ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ซึ่งเป็นการกระทำที่ดีที่สุดให้กับคนที่คุณรักด้วย

........................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ