นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 เมษายน 2563 เป็นวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ สปน. ครบรอบปีที่ 60 ซึ่ง สปน. มีส่วนสำคัญยิ่งในการเทิดทูนสถาบันหลักและส่งเสริมเอกลักษณ์ของชาติ เป็นหน่วยงานที่กำกับและติดตามการปฏิบัติงานของส่วนราชการทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนทั่วประเทศ และเป็นศูนย์กลางการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด - 19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชน และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยรัฐบาลได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และช่วยเหลือเยียวยาประชาชน
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่ สปน. ก้าวเข้าสู่ปีที่ 61 สปน. ได้น้อมนำแนวพระราชดำริสืบสาน รักษา ต่อยอด ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นแนวทางปฏิบัติ และได้วางแนวทางการทำงาน “เร็ว รุก สุขกับงาน วิชาการนำหน้า จิตอาสาเพื่อสังคม” มาเป็นกรอบในการปฏิบัติงาน เน้นการพัฒนาระบบการทำงานเชิงรุกและการตรวจราชการแบบบูรณาการ เพื่อให้ส่วนราชการทุกหน่วยขับเคลื่อนงานด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบัน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ สปน. เป็นหน่วยประสานความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในภาวะวิกฤตให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
สปน. ได้รายงานในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 หรือ ศบค. เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 ว่า สปน. ได้รับข้อร้องเรียน ข้อเสนอแนะ และความคิดเห็น ในช่วงสถานการณ์โควิด - 19 ผ่านสายด่วน 1111 ระหว่างวันที่ 5 มีนาคม ถึงวันที่ 12 เมษายน 2563 รวม 109,261 เรื่อง มีข้อร้องเรียน จำนวน 62,018 เรื่อง (ร้อยละ 56.8 ส่วนใหญ่ขอให้รัฐเพิ่มมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนให้ครบทุกกลุ่ม และควบคุมราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้เกินราคา มีข้อเสนอแนะด้านสาธารณสุข จำนวน 19,555 เรื่อง (ร้อยละ 17.9) โดยเฉพาะมีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของรัฐบาลด้านการสาธารณสุข ขอให้ภาครัฐวางแผนการจัดการขยะติดเชื้อและขยะชุมชนทั่วประเทศ และขอให้คนไทยทุกคนร่วมกันให้ความร่วมมือกับภาครัฐเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ให้มีประสิทธิภาพ รวมถึง มีการแจ้งเบาะแสกลุ่มเสี่ยง ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ขายของเกินราคาและสอบถามทั่วไป จำนวน 27,688 เรื่อง (ร้อยละ 25.3) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานรับข้อร้องเรียนและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง แล้ว
////////////////////
ข่าว สปน. ที่ 25/2563
วันที่ 14 เมษายน 2563
ที่มา: http://www.thaigov.go.th