นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์โรคทวีความรุนแรง กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อมาติดต่อราชการที่สำนักงานขนส่ง ใช้แอลกอฮอล์ชนิดเจลหรือชนิดน้ำทั้งก่อนและหลังการรับบริการ รวมถึงเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร ระหว่างรอรับบริการ ตามมาตรการ Social Distancing โดยสำนักงานขนส่งทุกแห่งมีการจัดเก้าอี้นั่งเพื่อเว้นระยะห่าง รวมถึงกำหนดจุดยืนคอย เพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัสกัน นอกจากนี้ มีการตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิประชาชนและเจ้าหน้าที่ทุกคน หากพบผู้ที่มีอาการไข้ หรืออาการต้องสงสัยเข้าข่ายอาการโรค แนะนำให้พบแพทย์หรือประสานหน่วยงานสาธารณสุขโดยเร็ว ด้านอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในหน่วยงาน เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคพื้นที่ให้บริการภายในสำนักงานขนส่ง โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง เช่น เคาน์เตอร์บริการ ที่จับประตู ราวบันได ปุ่มกดลิฟต์ เป็นต้น
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่รณรงค์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ในกรณีจำเป็นต้องมาดำเนินการที่สำนักงานขนส่ง ขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในการติดต่อราชการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ปัจจุบัน กรมการขนส่งทางบก งด การดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ณ ที่ทำการสำนักงานขนส่งทุกแห่ง และงดบริการการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติของโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกทุกแห่ง จนกว่าจะมีการประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินหรือมีประกาศเปลี่ยนแปลง โดยมีการอำนวยความสะดวก ให้อบรมภาคทฤษฎีผ่านระบบออนไลน์ที่ www.dlt-elearning.com สำหรับนำมาประกอบการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถเมื่อเปิดให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถ ทั้งนี้ ในส่วนของการให้บริการด้านทะเบียนและภาษีรถที่สำนักงานขนส่ง เปิดให้บริการปกติ โดยประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ให้ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ https://eservice.dlt.go.th ส่วนรถที่ไม่สามารถใช้บริการชำระภาษีประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ แนะนำให้ใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ชำระภาษีได้โดยไม่ต้องลงจากรถ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th