วันนี้ (28 เม.ย. 63) เวลา 13.00 น. ณ โถงบัญชาการ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยขอบคุณคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในการดำเนินงาน
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจเอกชน 20 ราย ซึ่งทำหน้าที่ดูแลลูกจ้างในห่วงโซ่ของตนเอง ทั้งลดการจ้างงานให้น้อยที่สุด หาอาชีพเสริมให้แก่ลูกจ้าง รวมทั้งยังเสนอแนะด้านเศรษฐกิจ อาทิ การบริการจัดการน้ำ เพื่อให้มีแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค รวมทั้งจะทำงานร่วมกับรัฐบาลในการดูแลประชาชนให้มากขึ้น เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าทุกภาคส่วนมีความสำคัญในการช่วยเหลือรัฐบาลดูแลประชาชน เพราะฉะนั้นในช่วงเวลาแบบนี้อยากให้ทุกฝ่าย เผื่อแผ่แบ่งปันซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ซึ่งภาคธุรกิจเอกชนเห็นเช่นเดียวกับรัฐบาลว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 การดำรงชีวิต ทั้งด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม จะเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเพื่อพัฒนาประเทศให้เต็มรูปแบบ โดยต้องอาศัยภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาชน เพื่อให้การทำงานสำเร็จ
นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์กับภาคเอกชน และภาคเอกชนก็ไม่มีการเรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้น ขอประชาชนอย่ารับข่าวบิดเบือน ทั้งนี้ มอบหมายให้ทุกกระทรวงติดตามการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นข้อเท็จจริงและส่งผลกระทบกับการทำงาน และอยากให้ระมัดระวังในการเผยแพร่ข้อมูลเพื่อไม่ให้เป็นการละเมิด พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ
สุดท้ายนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนเข้าใจการทำงานของรัฐบาล ลดความขัดแย้ง เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาการดูแลประชาชนได้เทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยหวังว่าในอนาคตประเทศไทยจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการตรวจหาผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
....................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th