วันนี้ (29 เม.ย. 63) เวลา 12.00 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยภายหลังตัวแทนเครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนการแก้ปัญหาคนจนเมือง ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ว่า หนังสือร้องเรียนที่ตัวแทนเครือข่ายสลัม 4 ภาคมายื่นในวันนี้ ประกอบด้วย 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1. ขอให้ รมว.พม. สนับสนุนนโยบายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดำเนินการ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เพื่อให้ชุมชนยืนได้ด้วยตัวเองในระยะยาว 2. กระทรวง พม. ต้องยืดระยะเวลาการพักชำระหนี้เพิ่มอีก 3 เดือน สำหรับลูกหนี้โครงการบ้านมั่นคง และโครงการบ้านเอื้ออาทร เนื่องจากสถานการณ์สังคมยังไม่กลับสู่ปกติ และ 3.ขอให้ รมว.พม. ช่วยผลักดันมาตรการในการแบ่งเบาภาระของผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ครอบคลุม เช่น มาตรการลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ควรเพิ่มเติมสำหรับชุมชนแออัดหลายแห่งที่ใช้มิเตอร์ชั่วคราวและไม่ได้เข้าเกณฑ์ที่ประกาศมา รวมทั้งมาตรการการช่วยเหลือค่าเช่าบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยอีกทั้งตนได้เชิญ นายสมชาติ ภาระสุวรรณ ผู้อำนวยการ พอช. และผู้บริหาร มาร่วมหารือด้วย
นายจุติ กล่าวว่า ทั้งนี้ ตนขอชี้แจงข้อเรียกร้องดังกล่าวทั้งสามข้อ ดังนี้ 1. เรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตนได้แจ้งผ่านผู้บริหาร พอช. ไปแล้ว ว่าจะทำอะไรบ้าง อาทิ รัฐบาลต้องการให้ประชาชนประกอบอาชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ในช่วงวิกฤติที่เปลี่ยนผ่านนี้ ดังนั้น หากประชาชนสนใจประกอบอาชีพอะไร สามารถแจ้งเข้ามาได้ 2. เรื่องขอให้ยืดระยะเวลาพักชำระหนี้อีก 3 เดือน กระทรวง พม. จะนำไปพิจารณาถึงความเป็นไปได้ หากสามารถดำเนินการได้ รัฐบาลพร้อมจะทำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ และ 3. ขอให้ผลักดันมาตรการในการแบ่งเบาภาระของผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ซึ่งรัฐบาลได้มีมาตรการลดค่าน้ำ ค่าไฟแล้ว โดยผู้บริหารที่เกี่ยวข้องต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ทั่วถึง
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้มีข้อกล่าวหาในโซเชียลมีเดีย ว่า รมว.พม. ต้องหยุดพฤติกรรมเอางบชาวบ้านที่นำไปพัฒนาอาชีพ และสร้างความยั่งยืนของชุมชน มาหาเสียงโดยการแจกถุงยังชีพ นั้น ตนขอปฏิเสธว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความจริง ตนคำนึงในจิตวิญญาณนักการเมือง ว่า ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ทุกข์ของประชาชนมาก่อน ต้องทำให้เร็วและดีที่สุด นายจุติ กล่าวอีกว่า จากข้อร้องเรียนถึงความบกพร่องดังกล่าว ตนได้มอบให้เลขานุการ รมว.พม. ไปตั้งทีมสอบข้อบกพร่อง เพื่อดูว่ามีอะไรที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ไม่ได้รับความเป็นธรรม และการช่วยเหลือไม่ทั่วถึงอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขโดยเร็วที่สุด และไม่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีก ทั้งนี้ ตนไม่ต้องการให้ประชาชนเข้าใจผิดว่ารัฐบาลละเลยคนจน และในฐานะที่ตนเป็น รมว.พม. จะกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไม่ให้บกพร่อง และดูแลประชาชนให้มีความสุข โดยไม่ให้เกิดเข้าใจผิดในความหวังดีของรัฐบาล
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีการแปลงงบพัฒนาชุมชนของ พอช. มาแจกถุงยังชีพ นั้น ต้องไปตรวจสอบว่าการแปลงดังกล่าว โดยพลการ หรือทำตามความต้องการชุมชน เพราะกระทรวง พม. ดำเนินงานตามความต้องการชุมชน หากมีการแอบอ้างชุมชน โดยมิชอบ ต้องไปตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมา มักมีคนแอบอ้างว่าประชาชนมีปัญหา ซึ่งตนจึงจำเป็นต้องลงพื้นที่รับฟังเสียงประชาชนเอง โดยคำนึงเสมอว่าประชาชนเป็นเจ้านายของตน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th