วันนี้ (10 มิ.ย. 63) เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ตอบคำถามสื่อมวลชน ที่ถามผ่านโซเชียลมีเดีย ช่วงการแถลงข่าวประจำวันศูนย์ข่าวโควิด-19 และสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
โฆษก ศบค. ยืนยันยังไม่มีการหารือถึงการทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน ตามที่ปรากฏเป็นกระแสข่าว ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนติดตามจากมติที่ประชุม ศบค. ที่จะมีการประชุมในวันที่ศุกร์ที่ 12 มิ.ย. นี้ สำหรับการเปิดให้ชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยวด้านสุขภาพในประเทศไทยนั้น ยังเป็นเพียงข้อพิจารณาเท่านั้น อาทิ รูปแบบ Travel Bubble ซึ่งเป็นการทำข้อตกลงให้สามารถเดินทางระหว่างประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระดับน้อย หรือ อนุญาตผู้ที่มีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและไทยมีศักยภาพทางด้านการแพทย์ อย่างไรก็ตามยังต้องคำนึงถึงผลกระทบในด้านอื่นด้วย
โอกาสนี้ โฆษก ศบค. ยังตอบข้อสงสัยตามร่างผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 ที่มีการอนุญาตให้มีการขายสุราในร้านอาหารได้ แต่ยังไม่ให้เปิดบริการกิจการ ผับ/บาร์/คาราโอเกะ โดยชี้แจงว่า เนื่องจาก ผับ/บาร์/คาราโอเกะ เป็นกิจการที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง ซึ่งที่ผ่านมามีการรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากสถานที่เหล่านี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ขณะที่ กิจการประเภทร้านอาหารจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อยและมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต มีการใช้เวลาในกิจกรรมไม่นานนักหากเทียบกับระยะเวลาทำกิจกรรมใน ผับ/บาร์ เบื้องต้นจึงอนุญาตให้มีการขายสุราในร้านอาหารก่อนได้
ในช่วงท้ายโฆษก ศบค. กล่าวถึงการหารือถึงฉบับร่างผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 ในการประชุม ศบค. วันศุกร์ที่ 12 มิ.ย. นี้ ซึ่งหากที่ประชุมมีมติเห็นชอบ จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการระยะ 4 ในวันที่ 15 มิ.ย. ทั้งนี้ ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศมาเป็นระยะเวลามากกว่า 14 วันต่อเนื่องแล้ว จึงอาจมีการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงแรก แต่ยังขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการหลัก โดยเฉพาะ สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง และสามารถติดตามข้อมูลได้ทาง Facebook Page ไทยคู่ฟ้าและศูนย์ข้อมูล COVID-19 สำหรับวันที่ไม่มีการแถลงสถานการณ์จาก ศบค. ณ ทำเนียบรัฐบาล ได้
.................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th