วันนี้ (24 มิถุนายน 2563) เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายทาเคทานิ อัทสึชิ (Mr. TAKETANI Atsushi) ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization : JETRO) กรุงเทพฯ เข้าเยี่ยมคารวะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
รองนายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกับประธาน JETRO อีกครั้ง พร้อมชื่นชมการทำงานของ JETRO Bangkok ที่ได้จัดทำรายงานหลายฉบับเพื่อให้ทราบถึงข้อเสนอแนะของมาตรการด้านเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงรายงานสรุปผลการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนญี่ปุ่นในไทย ประจำครึ่งแรกของปี 2563 ที่ และมีการรายงานให้ทราบทุก ๆ ครึ่งปี นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อรัฐบาลไทยในการรับทราบถึงความต้องการของนักลงทุนญี่ปุ่น ไทยจะได้พิจารณาสนับสนุนส่วนที่บกพร่องและจำเป็นต่อไป ขอให้ทางญี่ปุ่นเชื่อมั่นว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเป็นอย่างมาก รวมทั้งไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายเพื่อเป็นโอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เกิดศักยภาพสูงสุด
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมมาตรการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะทดลองผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับกลุ่มนักธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญจากไทย สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลไทยที่จะเข้าสู่ระยะของการผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศให้กับกลุ่มชาวต่างชาติที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะต้องพิจารณาใช้มาตรการป้องกันโรคอย่างสอดคล้องควบคู่กันเพื่อการบังคับใช้มาตรการได้รับผลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้
ประธาน JETRO กล่าวขอบคุณที่รัฐบาลไทยให้ความร่วมมือ และส่งเสริมการค้าการลงทุนของธุรกิจญี่ปุ่นมาโดยตลอด ซี่งรายงานผลสำรวจและข้อสรุปนี้ สะท้อนความความคิดเห็นของภาคเอกชนญี่ปุ่นว่า สถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นปัจจัย และความท้าทายใหม่ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่ายินดีว่า นักธุรกิจญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยืนยันที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปในไทยและมีความเชื่อมั่นที่จะขยายการลงทุนในระยะยาว รวมทั้งเชื่อมั่นในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลไทยว่าจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจทำให้ประกอบธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งนักลงทุนญี่ปุ่นยึดหลักเศรษฐกิจและความปลอดภัยที่ต้องมีควบคู่กัน (Economy and Safety) เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
ทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะมาตรการด้านเศรษฐกิจที่ภาคเอกชนญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีจะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบ โดยเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยได้เตรียมมาตรการด้านเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ และเริ่มดำเนินมาตรการที่จะอำนวยความสะดวกสำหรับภาคเอกชนไปบ้างแล้ว ซึ่งรัฐบาลยินดีที่จะรับฟังข้อเสนอแนะ และจะพิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th