วันนี้ (2 กรกฎาคม 2563) เวลา 14.00 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายอังเคล กูเรีย (Mr. Angel Gurr?a) เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ร่วมหารือผ่านระบบการประชุมทางไกล สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการประชุมในวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันเกี่ยวกับการรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้ดำเนินการมาตรการต่าง ๆ ส่งผลให้ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศอย่างต่อเนื่องกว่า 30 วัน สำหรับด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลไทยได้ให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยยึดแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในการส่งเสริมเศรษฐกิจ และการเตรียมพร้อมให้กับสังคมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต
เลขาธิการ OECD ย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง OECD และรัฐบาลไทย พร้อมแสดงความชื่นชมในการดำเนินมาตรการเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย ซึ่งมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จอย่างดี และเป็นที่ยอมรับ ทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนน้อย ทั้งนี้โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่ง OECD พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้ และความร่วมมือทางด้านต่างๆ กับไทย
ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันถึงแนวทางการรับมือผลกระทบจากโควิด-19 ในด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ การค้า ห่วงโซ่อุปทานโลก การเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ธุรกิจแบบดิจิทัล การท่องเที่ยว และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย โดยย้ำว่าทั้งสองฝ่ายพร้อมกระชับความร่วมมือและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในทุกมิติอันจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชน และประชาคมโลก
โอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความก้าวหน้าการพัฒนาวัคซีนของไทย โดยการพัฒนาร่วมกันระหว่างคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทิศทางที่ดี และเชื่อมั่นว่าอีกไม่นานจะมีวัคซีนที่สำเร็จ นำไปใช้รักษาได้จริง โดยเป้าหมายของประเทศไทย คือ การได้วัคซีนที่ผลิตเองภายในประเทศ และมีวัคซีนออกสู่ตลาดโลก
ในช่วงท้าย รองนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณ OECD ที่จัดการประชุมครั้งนี้ โดยไทยยินดีให้ความร่วมมือกับ OECD และประชาคมระหว่างประเทศในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th