นรม. ในฐานะ ผอ. ศบค. แสดงความเสียใจต่อคนไทย กรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจ.ระยอง เดินทางจากอียิปต์ ยืนยันยังไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ เน้นควบคุมเข้มข้นในกลุ่มบุคคลอ่อนไหว

ข่าวทั่วไป Wednesday July 15, 2020 14:42 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตร ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศบค. แสดงความเสียใจต่อคนไทย กรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจ.ระยอง เดินทางจากอียิปต์ ยืนยันยังไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ เน้นควบคุมเข้มข้นในกลุ่มบุคคลอ่อนไหว

วันนี้ (14 ก.ค. 63) เวลา 13.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ณ จังหวัดระยอง ที่เดินทางมาจากประเทศอียิปต์ เป็นการกระทำที่ไม่เคารพกติกา ไม่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข และไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อส่วนรวม เนื่องจากเครื่องบินที่เข้ามาเป็นเครื่องบินทหารเพื่อ Transit เท่านั้น แต่กลับมีการหยุดพักค้างคืนและฝ่าฝืนออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้ กำชับไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ขอแสดงความเสียใจและขอโทษคนไทยเหตุการณ์นี้ สร้างผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและความปลอดภัยต่อสังคมโดยรวม พร้อมสั่งการเพิ่มความเข้มงวดไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก โดยกำชับเจ้าหน้าที่ให้ติดตาม เก็บข้อมูลเชิงลึก บริเวณพื้นที่สัมผัส รวมถึงติดตามผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงจากแอปพลิเคชันไทยชนะด้วย

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ ศบค. ทบทวนการผ่อนคลายมาตรการเรื่องการอนุญาตเที่ยวบินจากต่างประเทศ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศหารือกับสถานเอกอัครราชทูตทุกแห่งขอให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด จะต้องมีการตรวจสอบติดตามผู้ที่เดินทางเข้ามา ขณะนี้ได้ชะลอการอนุญาตเที่ยวบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแก้ไข/เพิ่มเติม มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลอ่อนไหว เช่น เจ้าหน้าที่ทูต ครอบครัว บุคคล VIP นักธุรกิจ โดยสั่งการให้ทุกท่าอากาศยานเข้มงวดในการคัดกรองโรค ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนชาวไทยมั่นใจในมาตรการสาธารณสุข รวมทั้งเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทย ที่มีความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังย้ำให้ประชาชนและผู้ประกอบการ “การ์ดไม่ตก” โดยเฉพาะสถานบันเทิง ผับ บาร์ หากพบการกระทำผิดมาตรการสาธารณสุข มีความแออัด จะไม่อนุญาตให้เปิดบริการ รวมถึงประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือเป็นประจำ เช็คอินแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” รักษาระยะห่าง Social Distancing เพื่อให้ประเทศไทยยังคงรักษาความสามารถในการป้องกันโรค ในอันดับต้น ๆ ของโลกต่อไป

นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ว่า ได้ผลน่าพอใจและจะเริ่มทดลองในมนุษย์ ซึ่งต้องใช้อาสาสมัครจำนวนหลายพันคน รวมทั้งต้องส่งไปทดสอบในต่างประเทศด้วย หากไทยประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน จะสามารถสร้างชื่อเสียง ทำให้ประเทศไทยปลอดภัยจากโรค ซึ่งต้องขอบคุณทีมวิจัยและคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนา

นายกรัฐมนตรียืนยันยังไม่คิดใช้มาตรการล็อกดาวน์ สำหรับการท่องเที่ยว ขณะนี้ ได้ขอให้ชะลอการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ก่อนไม่รีบผลีผลามโดยจะพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป พร้อมยืนยันยังไม่มีการหารือถึงการขยายระยะเวลาใช้ พ.ร.ก ฉุกเฉินฯ โดยต้องรอดูสถานการณ์ในอนาคต วันนี้กำชับให้เพิ่มความเข้มงวดตามขอบชายแดนรอบประเทศไทย เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งกองกำลังทหารจะมีการปฏิบัติการเสริมรั้วลวดหนามและใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อลาดตระเวนทางอากาศ การขอเข้าไทยต้องดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย ปฏิบัติตามระเบียบตามมาตรการสาธารณสุขด้วยต่อไป

...................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ