โฆษก ศคบ. ยืนยันไม่พบผู้ติดเชื้อในจ.ระยอง ชื่นชมทุกฝ่ายสร้างความเชื่อมั่นระยองปลอดเชื้อปลอดภัย เชิญชวนมาท่องเที่ยว จ.ระยอง ได้เช่นเดิม

วันนี้ (19 ก.ค. 63) เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน และมาตรการในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

โฆษก ศบค. รายงานเพิ่มเติมการสอบสวนโรคเพิ่มเติมที่จังหวัดระยองและกรุงเทพมหานครในวันที่ 17 และวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ยังไม่พบผู้ติดเชื้อทั้งสองพื้นที่ จากการตรวจทั้งหมด 6,379 ราย ไม่พบเชื้อ 5,565 ราย และรอผล 814 ราย

โฆษก ศบค. ชี้แจงความถูกต้องต่อกระแสข่าว จ.ระยองติดโควิด อันตรายทั้งจังหวัดนั้น ให้ปักหมุดเฉพาะพื้นที่ห้างสรรพสินค้าแหลมทองและโรงแรม ดีวารี ยืนยันมีการทำความสะอาดเรียบร้อย และ State Quarantine บุคคลที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าว 14 วัน รวมทั้ง จังหวัดระยองยังได้แก้จุดเสี่ยงในพื้นที่แล้ว ขอชื่นชมทุกภาคส่วน ที่ร่วมสร้างความเชื่อมั่น ยืนยันจังหวัดระยองปลอดภัยร้านค้าและโรงแรมต่าง ๆ ในจังหวัดระยองมีการตรวจคัดกรองป้องกันตามมาตรฐานความปลอดภัย ขอเชิญชวนให้ประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดระยองได้เช่นเดิม เพราะมีทั้งสถานที่ท่องสวยงาม เที่ยวอาหารทะเลสด กิจกรรมมากมาย

โอกาสนี้ โฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,249 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 92 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 3,096 ราย โดยผู้ป่วย 2 ใน 3 ราย เดินทางมาจากสิงคโปร์ และผู้ป่วยรายที่ 3 เดินทางมาจากซูดาน ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่กักกัน State Quarantine

ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตทุกประเทศ เป็นอย่างดี โดยคณะอุปทูตที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยให้ความร่วมมือเข้าพักในสถานที่ Alternative State Quarantine แทนที่พำนักส่วนตัว และได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ของโลก ในวันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 14,422,468 ราย มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 604,823 ราย 5 อันดับแรกที่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล อินเดีย รัสเซีย และ แอฟริกาใต้ โดยประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 101 ของโลก แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยประเทศในแถบเอเชียจะลดลง แต่แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โฆษก ศบค. รายงานแผนการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศวันนี้ มีคนไทยเดินทางกลับมาจากบาห์เรน 246 คน ออสเตรเลีย 244 คน และนิวซีแลนด์ 20 คน วันพรุ่งนี้จะมีผู้เดินทางกลับจากเดนมาร์ก 49 คน รัสเวีย 43 คน อินโดนีเซีย 196 คน สหรัฐอมริกา 47 คน และสหราชอาณาจักร 301 คน โดยแผนการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศในวันที่ 21 กรกฎาคม มี 5 เที่ยวบิน ได้แก่ ไต้หวัน 2 เที่ยวบิน จีน โตรอนโต และภูฏาน วันที่ 22 กรกฎาคม มี 3 เที่ยวบิน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และไต้หวัน วันที่ 23 กรกฎาคม 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน วันที่ 24 กรกฎาคม มี 4 เที่ยวบิน ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อียิปต์ และแคนาดา ส่วนวันที่ 25 กรกฎาคม มี 3 เที่ยวบิน ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ และ วันที่ 26 กรกฎาคม 3 เที่ยวบิน ได้แก่ กาตาร์ มาเลเซีย และนิวซีแลนด์ ในส่วนผู้เดินทางกลับเข้าประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบกเดินทางจากมาเลเซีย 116 คน สปป.ลาว 20 คน และกัมพูชา 6 คน รวม 142 คน

สำหรับยอดคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องกักกันตัวในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine และ Local Quarantine) ตั้งแต่ 3 เมษายน – 18 กรกฎาคม มีจำนวน 60,319 ราย กลับบ้านแล้ว 51,509 ราย พบผู้ติดเชื้อจากสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 312 ราย รักษาหายและกลับบ้านได้แล้ว 217 ราย ยอดสะสมการใช้งาน www.ไทยชนะ.com ตั้งแต่เริ่มโครงการ มีผู้ใช้งาน 37,375,316 คน ร้านค้าลงทะเบียน 275,441 ร้าน เช็คอิน/เช็คเอาท์ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะอยู่ที่ร้อยละ 96.2 ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะร้อยละ 3.8 และยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไทยชนะ 779,181 ครั้ง

ในช่วงท้าย โฆษก ศบค รายงาน หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือมีเรื่องร้องเรียน สามารถโทรแจ้งได้ที่เบอร์ 191 1599 หรือ 1138 สายด่วน ศปม. ได้ตลอดเวลา

--------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th