วันนี้ (20 ก.ค. 63) เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน และมาตรการในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
โฆษก ศบค. ชี้แจงถึงการสอบสวนโรคเพิ่มเติมกรณีที่จังหวัดระยองและกรุงเทพมหานครในวันที่ 20 กรกฎาคม 63 ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อทั้งสองพื้นที่ โดยจังหวัดระยอง มีการตรวจทั้งหมด 6,501 ราย ผลปรากฏไม่พบเชื้อ 6,287 ราย และรอผล 214 ราย ส่วนกรุงเทพฯ มีการตรวจทั้งหมด 364 ราย ผลปรากฏไม่พบเชื้อทั้งหมด จากการตรวจทั้งหมดของทั้งสองจังหวัด 6,865 ราย ไม่พบเชื้อ 6,287 ราย และรอผล 214 ราย อย่างไรก็ตามขอเน้นย้ำให้ประชาชนยังต้องใส่หน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยยืนระยะยาวในการที่จะให้มีผู้ติดเชื้อในประเทศให้น้อยที่สุด
โฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เดินทางมาจากสิงคโปร์ และเข้าอยู่ในพื้นที่กักกัน State Quarantine รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,250 ราย สถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 313 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 96 ราย อัตราการป่วยตามประเทศต้นทางร้อยละ 0.73 เน้นย้ำว่า อย่าไปคาดหวังว่าจะเป็น 0 หากเกิดการระบาดระลอกสอง กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถรับมือได้ ขณะที่ข้อมูลผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องกักกันในสถานที่ของรัฐ มียอดคัดกรองสะสม 60,895 ราย ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลสะสม 313 ราย รักษาหายกลับบ้านได้ 217 ราย
นอกจากนี้ ยังมีจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศทางด่านชายแดนที่ต้องกักกันในสถานที่ของรัฐส่วนภูมิภาค สะสมรวม 24,412 ราย จากด่านมาเลเซีย ด่านลาว ด่านเมียนมา และด่านกัมพูชา ซึ่งเป็นคนไทยที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย และขณะเดียวกันยังไม่เปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามา ถ้าหากมีความต้องการใช้แรงงานเพื่อนบ้านของไทย จะมีการนำเข้าที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ในวันพุธที่ 22 กรกฎาคม นี้ เพื่อหามาตรการผ่อนคลายให้กลุ่มแรงงานชาวต่างด้าว 3 สัญชาติ กลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย พร้อมกันนี้ ยังมีจำนวนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศทางอากาศและด่านชายแดนสะสมรวม 60,865 ราย โดยขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ทางขอบชายแดนให้ทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด เรื่องโรคติดต่อมาพร้อมกับคน การดูแลเรื่องของคนเป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของโลก ในวันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 14,641,819 ราย จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 217,312 ราย มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 608,902 ราย สหรัฐอเมริกายังคงมีผู้ป่วยยืนยันสะสมเป็นอันดับที่ 1 ของโลก รองลงมาคือบราซิลและอินเดียตามลำดับ ซึ่งปัจจุบัน ไทยอยู่อันดับที่ 101 ของโลก โดยกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ (G20) ได้ออกแถลงการณ์โดยระบุว่า เศรษฐกิจทั่วโลกจะหดตัวลงอย่างรุนแรงในปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โฆษก ศบค. เผยมีห้องปฏิบัติการเครือข่ายของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจ SARS-CoV-2 (COVID-19) ประเทศไทย จำนวน 209 แห่ง และมีจำนวนตัวอย่างที่ได้รับการตรวจ COVID-19 RT-PCR ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 63 จำนวน 685,316 ตัวอย่าง
ด้านแผนการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศวันนี้ มีคนไทยเดินทางกลับจากเดนมาร์ก 49 คน รัสเซีย 37 คน อินโดนีเซีย 196 คน สหรัฐอเมริกา 47 คน และสหราชอาณาจักร 301 คน วันพรุ่งนี้จะมีผู้เดินทางกลับจากไต้หวัน 200 คน ภูฏาน 2 คน ไต้หวัน 200 คน แคนาดา 50 คน และจีน 64 คน โดยแผนการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศในวันที่ 22 กรกฎาคม มี 3 เที่ยวบิน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และไต้หวัน วันที่ 23 กรกฎาคม 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน วันที่ 24 กรกฎาคม 4 เที่ยวบิน ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อียิปต์ และแคนาดา วันที่ 25 กรกฎาคม 3 เที่ยวบิน ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ วันที่ 26 กรกฎาคม 3 เที่ยวบินได้แก่ กาตาร์ มาเลเซีย และนิวซีแลนด์ และวันที่ 27 กรกฎาคม 6 เที่ยวบิน ได้แก่ เดนมาร์ก เยอรมนี เอธิโอเปีย สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ในส่วนผู้เดินทางกลับเข้าประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบกเดินทางจากมาเลเซีย 33 คน สปป.ลาว 1 คน และกัมพูชา 1 คน รวม 35 คน
สำหรับยอดสะสมการใช้งาน www.ไทยชนะ.com ตั้งแต่เริ่มโครงการ มีผู้ใช้งาน 37,654,244 คน ร้านค้าลงทะเบียน 275,795 ร้าน เช็คอิน/เช็คเอาท์ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะอยู่ที่ร้อยละ 96.1 ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะร้อยละ 3.9 และยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไทยชนะ 789,492 ครั้ง โดยกิจการ/กิจกรรมที่มีจำนวนการเช็คอิน/เช็คเอาท์มากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหาร ตามลำดับ
---------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th