วันนี้ (17 สิงหาคม 2563) เวลา 08.30 น. ณ ห้องประชุมบริษัท ยูมี พลัส กรุ๊ป จำกัด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดสัมมนา เรื่อง “ผู้บริโภค ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้” โดยมีผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค นายสุรศกดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ สภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐให้การต้อนรับ และมีผู้บริหารส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น เครือข่ายอาสาสมัครสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่ร่วมรับฟังการชี้แจงให้ความรู้ทำความเข้าใจ เรื่อง “ผู้บริโภค ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้” สำหรับวัตถุประสงค์ของการสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้วิธีการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ รวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า และปัญหาความเดือดร้อนหรือการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้า นำไปปรับปรุงข้อกฎหมายให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงเร่งรณรงค์ให้ประชาชนมีความ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายว่า ผู้บริโภคทุกคนจำเป็นกินต้องใช้สินค้าหรือบริการในการดำรงชีวิต ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคในมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น ความนิยมในการหันมาซื้อสินค้าหรือบริการผ่านระบบออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังขาดความตระหนักในสิทธิหรือหน้าที่ของผู้บริโภค และถูกเอารัดเอาเปรียบจากการขายสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ เช่น สั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ที่ได้โอนเงินไปแล้วแต่ไม่ได้รับสินค้า หรือได้รับสินค้าชำรุดบกพร่อง หรือได้รับสินค้าไม่ตรงที่มีการโฆษณาไว้ บางกรณีสั่งซื้อสินค้าแต่กลับได้รับเพียงกล่องเปล่า หรือบางกรณีถูกหลอกให้นำเงินมาลงทุนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่แอบแฝง เป็นต้น ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีหน้าที่และอำนาจในการรับและพิจารณาคำร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ผลิตหรือผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงติดตามและสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจ ตลอดจนทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ขอให้คำมั่นสัญญากับผู้บริโภคทุกคนว่าจะกำกับดูแลให้ความเป็นธรรม จะไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ รวมทั้งจะกำชับเจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการสืบสวนข้อร้องเรียนต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเร็วยิ่งขึ้น และหวังให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้บริโภค สามารถนำความรู้ต่าง ๆ ไปใช้ในการปกป้องสิทธิของตนเองในการซื้อสินค้าหรือบริการได้มากขึ้น
ที่มา: http://www.thaigov.go.th