เมื่อวันที่ 17 ส.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มั่นใจว่า การตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) หรือ "ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ" จะแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยไม่ซ้ำซ้อนกับการทำงานของกระทรวงและหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ แต่เป็นการระดมความเห็น ความต้องการในระยะจำเป็นเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงตามสถานการณ์ แก้ไขผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างทันท่วงที เพื่อลดผลกระทบในระยะกลางและระยะยาวด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ ยังเป็นข้อเสนอจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น กระทรวง หรือ ภาคธุรกิจ โดยมองตรงกันว่า จะช่วยให้การทำงานด้านการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น สามารถมอบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาได้อย่างรอบด้านมากขึ้น โดยศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จะมีประชุมนัดแรกในวันที่ 19 ส.ค. มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมจะมีการประเมินแนวโน้มของผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ พิจารณาข้อเสนอของกระทรวงต่างๆ รวมถึงภาคธุรกิจ เชื่อว่าจะได้เห็นทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ดียิ่งขึ้นในเวลาอันใกล้นี้
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนการตั้งคณะกรรมการสร้างไทยไปด้วยกันนั้น นายกรัฐมนตรี ต้องการรับฟังข้อเสนอแนะในความต้องการของจังหวัด เพื่อเสนอถึงรัฐบาลโดยตรง โดยให้จังหวัดได้มีการประชุม ระดมความเห็นของทุกภาคส่วน จัดทำเป็นข้อเสนอในระยะเร่งด่วนถึงรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลจังหวัดนั้นๆ คอยติดตาม ช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ผลัดดันให้การทำงานสัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว และยืนยันว่า การทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยนั้น ไม่ซ้ำซ้อนกับกลไกรัฐที่มีอยู่ แต่เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
..........................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th