นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ว่า ครม.เห็นชอบเอกสารในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 52 รวม 7 ฉบับ ซึ่งจะมีการประชุมผ่านระบบ Video Conference ระหว่างวันที่ 24 - 29 สิงหาคม 2563 นี้ โดยสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในฐานะประธานอาเซียน ปี 2563 จะเป็นเจ้าภาพ และในการประชุมครั้งนี้จะมีการรับรองร่างเอกสาร จำนวน 3 ฉบับ และให้ความเห็นชอบร่างเอกสาร จำนวน 4 ฉบับ ดังนี้
ทั้งนี้ 3 ร่างเอกสารที่จะมีการรับรอง ประกอบด้วย 1.ร่างดัชนีวัดการบูรณาการด้านดิจิทัลของอาเซียนที่มี 6 ดัชนี เช่น โลจิสติกส์และการค้าดิจิทัล การคุ้มครองข้อมูลและความปลอดภัยไซเบอร์ การชำระเงินดิจิทัลและตัวตนดิจิทัล ทักษะดิจิทัลและผู้มีความสามารถด้านดิจิทัล เป็นต้น 2. ร่างเอกสารข้อริเริ่มของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลี สาระสำคัญ คือ อำนวยความสะดวกระหว่างการขนส่งและพิธีการศุลกากรของสินค้าจำเป็น การเดินทางข้ามพรมแดนของบุคคลธรรมดาควบคู่กับมาตรฐานด้านสุขภาพเพื่อลดผลกระทบของโควิด-19 และ 3.ร่างแผนปฏิบัติการของอาเซียน+3 ว่าด้วยการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อรักษาตลาดที่เปิดกว้างสำหรับการค้าและการลงทุน เสริมสร้างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีเอกสาร 4 ฉบับ ที่จะให้ความเห็นชอบ ได้แก่ 1)ร่างแผนการดำเนินงานภายใต้กรอบความตกลงด้านการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนกับสหรัฐอเมริกา และการขยายการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจปี 2563 -2564 ที่จะร่วมมือกันด้านการค้าดิจิทัล การลงทุน ความโปร่งใสและแนวปฏิบัติที่ดีในการออกกฎระเบียบ เป็นต้น 2)ร่างแผนงานเพื่อดำเนินการตามปฏิญญาร่วมระหว่างอาเซียนและแคนาดาด้านการค้าและการลงทุนปี 2564 - 2568 และ 3) ร่างแผนงานด้านการค้าและการลงทุนอาเซียน-สหภาพยุโรป (ปี 2563 – 2564) ที่รวมถึงการจัดทำกรอบกำหนดขอบเขตความตกลงการค้าอาเซียน-สหภาพยุโรป การหารือภาคธุรกิจด้วย และ 4) ร่างแผนงานความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยูเรเซีย สำหรับปี 2563 - 2568 และเอกสารข้อเสนอแนะสำหรับการสัมมนา “การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียและอาเซียน”
รองโฆษกรัฐบาลย้ำ การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ที่จะเกิดขึ้น ยืนยันถึงความพร้อมของไทย และอาเซียนและคู่ภาคี ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ เตรียมความพร้อมด้านดิจิทัล ขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนคู่ เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังยุคโควิด-19 ด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th