วันนี้ (24 กันยายน 2563) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบปะพี่น้องชาวเชียงราย ณ สำนักงานเทศบาลตำบลแม่ยาว จังหวัดเชียงราย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังปัญหาและข้อเสนอจาก นายพิเชษฐ กันทะวงค์ ประธานชมรม Young Smart Farmer จังหวัดเชียงราย และกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่อาศัยเทคโนโลยีการเกษตรในยุคไทยแลนด์ 4.0 การตลาดนำการผลิต ตลอดจนการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการทำเกษตร ตามที่รัฐบาลได้ส่งเสริมการเกษตรในทุกด้านและทุกมิติ และเสนอให้ภาครัฐส่งเสริมการพัฒนาและสร้างเกษตรกรต้นแบบในจังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นโมเดลในการขยายผลความรู้สู่เกษตรกรต้นแบบในท้องถิ่นแบบองค์รวมต่อไป
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาและเดินทางมาประชุมเตรียมการและตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในวันนี้ พร้อมทั้งมารับฟังความคิดเห็นและความต้องการของตัวแทนพี่น้องชาวเชียงรายที่นำเสนอและข้อเสนอแนะต่างๆ รวมถึง ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน เรื่องปากท้องเรื่องการประกอบอาชีพของประชาชน จังหวัดเชียงรายมีความโดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยว มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายที่ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้เราต้องร่วมมือกันในการป้องกันการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 โดยเฉพาะในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษตามแนวชายแดน ขอให้ทุกคนเข้าใจถึงสถานการณ์และปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุข พร้อมทั้งขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล และทุกภาคส่วนที่มีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาทำมาหากินได้อีกครั้ง ทุกคนต้องเรียนรู้ ต้องปรับตัวทั้งในการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปในรูปแบบ New Normal ชีวิตวิถีใหม่ รัฐบาลมีหน้าที่อำนวยความสะดวกในเรื่องกฎหมาย การทำงานของรัฐบาลทำไม่ได้ทันทีทันใดด้วยเรื่องติดขัดข้อกฏหมายต่างๆ นโยบายของรัฐบาลภายหลังยุคโควิด คือการให้ทุกกลุ่มร่วมกันทำงาน หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมเข้าด้วยกัน
สำหรับการจัดสรรที่ดินทำกิน คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เร่งรัดจัดสรรที่ดินทำกินให้กับกลุ่มชนเผ่าและชาติพันธุ์โดยเร็วที่สุด โดยให้ใช้หลักเกณฑ์ขั้นต้นของ คทช. ส่วนที่ขอเพิ่มเติมนั้น ขอให้รอให้มีการจัดที่ทำกินให้ทั่วถึงประชาชนที่ต้องการที่ดินทำกินทั้งหมดให้ทั่วถึงก่อน แล้วจะมีการพิจารณาในส่วนที่เพิ่มเติมต่อไป
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการป้องการระบาดของโควิด-19 ระลอกสองด้วยว่า ขอฝากให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้าอยู่ตามแนวชายแดน ช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้มีการลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางที่ไม่ถูกต้อง พร้อมขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือกันเพื่อทำให้ประเทศปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วย
สำหรับปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เป็นปัญหาที่เกิดซ้ำ ต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมมือกันอย่างจริงจังตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปลูกป่า เพื่อให้ป่ามีความชุ่มชื้นส่งผลให้อากาศดี คุณภาพชีวิตดีขึ้นและแนวทางที่สำคัญคือจะต้องให้คนอยู่กับป่าให้ได้ ทุกคนต้องจับมือก้าวไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อเป็นการรวมพลังของภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน รวมไทยสร้างชาติ ที่มีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์
จากนั้น นายกรัฐมนตรีชมนิทรรศการการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ดังนี้ การบริหารจัดการพื้นที่ การทำปุ๋ยหมัก นำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาทำปุ๋ยหมักลดการเผา การเพาะเห็ดคืนป่า การใช้พลังงานทดแทน การจัดการเศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรไปใช้ประโยชน์เป็นพลังงานชีวมวล การควบคุมการเกิดไฟ การทำป่าเปียก สร้างฝาย ปลูกหญ้าแฝก การทำฝายฟื้นฟูต้นน้ำตามแนวพระราชดำริ การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าการใช้ Drone อากาศยานไร้คนขับควบคุมระยะไกล ช่วยในการดับไฟใน กรณีที่คนไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ การแก้ไขปัญหาหมอกควัน การใช้เครื่องฟอกอากาศ DIY การใช้แอปพลิเคชันยักษ์ขาว ที่จะรายงานสถานการณ์ฝุ่นควัน PM 2.5 และร่วมกันปลูก “ต้นกาสะลองคำ” ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดเชียงราย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพภายในเย็นวันเดียวกัน
................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th