วันนี้ (26 ต.ค.63) เวลา 16.00 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ชั้น 2 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) ว่า รัฐบาลมีความจำเป็นในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง สืบเนื่องจากผู้ชุมนุมมีขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประกอบกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาด และสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรคไข้หวัดที่อาจจะพัฒนาบานปลายเกิดเป็นปัญหาต่อเนื่องได้
1) กรณีเรียกร้องขอให้มีการเปิดสภาสมัยวิสามัญ
2) กรณีเรียกร้องให้มีการยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศยกเลิกแล้วตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 22 ต.ค. 2563 และ
3) กรณีขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของสภาแล้ว อีกทั้งประธานวิปฝ่ายรัฐบาลได้ชี้แจงแล้วว่า จะเปิดสภาสมัยสามัญตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2563 อีกไม่กี่วันนี้
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลได้ทำ Timeline ว่าหากจะเร่งให้แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเร็วที่สุดนั้น จะกระทำได้อย่างไร ซึ่งหากนำเอาร่างรัฐธรรมนูญของพรรคฝ่ายค้าน 1 ฉบับ ของพรรคร่วมรัฐบาล 1 ฉบับ รวมเป็น 2 ฉบับ และที่พรรคฝ่ายค้านได้เสนอแก้ไขเป็นรายมาตราอีก 4 ฉบับ รวมเป็น 6 ฉบับ มาพิจารณา ก็สามารถพิจารณาได้เลยทันทีที่มีการเปิดสมัยสามัญในต้นเดือน พ.ย. 2563
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวเสริมถึงประเด็นการยุบสภาว่า รัฐบาลได้พิจารณาในประเด็นดังกล่าวเช่นกัน แต่ยังไม่ทราบว่าสภามีความผิดอะไรถึงจะต้องยุบสภา เนื่องจากการยุบสภาจะต้องเกิดความขัดแย้งอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เกิดเรื่องดังกล่าว
ส่วนกรณีที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออก รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า จะต้องคิดต่อไปว่าการพิจารณาเพื่อแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะมาจากขั้นตอนใดอย่างไร ซึ่งต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีนั้น จะต้องเป็นผู้ที่มาจากรายชื่อที่ได้เสนอไว้ตั้งแต่สมัยที่มีการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งหากสมาชิกวุฒิสภางดออกเสียงทั้งหมดดังที่มีผู้เรียกร้อง จะทำให้จำนวนการลงคะแนนเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไม่ถึง 366 เสียง ซึ่งจะถือว่าคะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของทั้งสองสภา ซึ่งจะทำให้เกิดทางตัน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th