วันนี้ (30 ต.ค. 63) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะนำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2563 พร้อมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2563 ณ จังหวัดภูเก็ต ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดอันดามัน สร้างความเชื่อมั่นภาคเอกชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ครั้งนี้นอกจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร การประชุมการขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันร่วมกับผู้ว่าราชการ 6 จังหวัดอันดามัน ได้แก่ กระบี่ ตรัง ภูเก็ต ระนองและสตูล เร่งรัดโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงอ่าวไทยกับอันดามันแล้ว นายกรัฐมนตรีจะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคท่องเที่ยว โดยมีวาระสำคัญ เช่น โครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก มาตรการส่งเสริมการจัดแพ็คเกจท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและการจัดสัมมนาของภาครัฐในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงด้วย
สำหรับภารกิจนายกรัฐมนตรีมีดังนี้ วันที่ 2 พ.ย. 63 ตรวจมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รับฟังข้อเสนอแนะแผนรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินเข้ามาท่องเที่ยวใน อ.เกาะสมุย การบริหารจัดการของโรงแรมเชอราตันภายใต้ระบบ ALSQ (Alternative Local State Quarantine) ชมระบบติดตามผู้เดินทางเข้าออกภายในเกาะสมุย ณ ศูนย์ควบคุมกล้องโทรทัศน์วงจรผิด (Samui Smart City Command Center) และพบปะกับประชาชนและร่วมปล่อยพันธุ์ปลาสัตว์น้ำ ปูทะเล เต่าทะเล ณ วัดพระเจดีย์แหลงสอ บ่ายวันเดียวกันจะเดินทางต่อไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อตรวจเยี่ยมมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างและชมการสาธิตขั้นตอนการคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ก่อนเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวของภูเก็ตจากผลกระทบโควิด-19 ร่วมกับผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
รุ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมการขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2563 ณ โรงแรมสแปลช บีช รีสอร์ต ไม้ขาว ภูเก็ต อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต และเยี่ยมร้านค้าในย่านการค้าเมืองเก่าภูเก็ต ก่อนเดินทางกลับ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคการเที่ยวท่องของไทยอย่างมาก ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงตั้งใจลงพื้นที่เพื่อหารือร่วมทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ เพื่อเห็นสภาพปัญหาข้อเท็จด้วยตนเอง ให้กำลังใจผู้ประกอบและประชาชน สร้างความเชื่อมั่นแก่ทั้งนักท่องเที่ยวที่และประชาชนในพื้นที่ถึงความพร้อมและมาตรการสาธารณสุขในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ส่วนตัวเชื่อว่ากิจกรรมเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น บวกกับการขยายระยะเวลาโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามันรวมทั้งหลายพื้นที่ของไทยด้วยช่วงปลายปีนี้
อนึ่ง ภารกิจคณะรัฐมนตรีในพื้นที่ครั้งนี้ อาทิ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด ?กระทรวงแรงงานพบประชาชน@ภูเก็ต? เยี่ยมชมโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ณ สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค สาขาภูเก็ต นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ติดตามการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านในไร่ และเยี่ยมชมกิจการรีสอร์ทประชารัฐตำบลนาเตย อ. ท้ายเหมือง จ. พังงา รัฐมนตรีศึกษาธิการ ติดตามการจัดการศึกษาอาชีวศึกษากำลังสอง ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต เป็นต้น
ที่มา: http://www.thaigov.go.th