วันนี้ (26 พฤศจิกายน 2563) เวลา 18.30 น. ณ ห้องบอลรูม โรงแรมแชงกรี-ลา ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ?SMEs Excellence Awards 2020? และรางวัลพระราชทาน ?Thailand Corporate Excellence Awards 2020? จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) และ ศาสตราจารย์ ดร. เอียน เฟนวิค ผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์กรที่เข้ารับรางวัลเข้าร่วมงานในวันนี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีแก่องค์กรที่ได้รับรางวัล พร้อมย้ำถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลว่า มีเป้าหมายสำคัญเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชน ทั้งองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัว และผลักดันให้เกิดการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งระดับองค์กรและระดับประเทศ ที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจ เร่งรัดพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งในภาคการผลิตและการบริการ ตลอดจนพัฒนาปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุน และสร้างผู้ประกอบการอัจฉริยะยุคใหม่ให้สามารถพัฒนาแอปพลิเคชัน นวัตกรรม สินค้าและบริการที่หลากหลาย สร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ องค์กรธุรกิจที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ยังถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการยกระดับศักยภาพการบริหารจัดการ สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจ SMEs ของไทยให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตนเอง มีความพยายามปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขันในตลาดโลก เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการทั่วไป ได้เห็นถึงความสำคัญของการมุ่งพัฒนาธุรกิจของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่หลายประเทศยอมรับว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่รับมือกับโควิด-19 ได้อย่างดี ซึ่งทุกคนต้องประคองกันไม่ให้ล้ม ถ้าล้ม ต้องลุกขึ้นให้ไวและก้าวไปข้างหน้าให้เร็วและดีกว่าของเดิมที่มีอยู่ ตามแนวพระราโชบายของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงรับสั่งว่า ขาดทุนคือกำไร ในช่วงนี้อาจจะขาดทุนมากบ้าง น้อยบ้าง แต่คำว่าขาดทุนของเรา คือ โอกาสในการปรับปรุงการบริหารจัดการ รัฐบาลก็ใช้โอกาสนี้ ในการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ลดการพึ่งพาการส่งออก หรือการท่องเที่ยว พร้อมกับดูแลประชาชนในทุกพื้นที่ในแต่ละจังหวัด นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เตรียมการ หากประเทศไทยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก็จะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป
......
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th