วันนี้ (4 ธันวาคม 2563) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผย จากอิธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และเกิดวาตภัยขึ้น ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมา ทำให้จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่จำนวน 7 จังหวัด (สุราษฏร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา และยะลา) ทั้งนี้ จากรายงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าวอยู่ภายใต้การจัดการสาธารณภัยขนาดกลาง (ระดับ 2) โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างให้ประกาศยกระดับการจัดการสาธารณภัย เป็นการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ (ระดับ 3) ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติต่อไป พร้อมเน้นย้ำให้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พรุ่งนี้ (5 ธันวาคม) นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตนเอง พร้อมทีมงานลงพื้นที่อำเภอระโนดจังหวัดสงขลา เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมถึงประเมินสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ จังหวัดสงขลามีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 13 อำเภอ (เมืองสงขลา จะนะ สะเดา หาดใหญ่ ควนเนียง สิงหนคร นาหม่อม รัตภูมิ บางกล่ำ สทิงพระ ระโนด กระแสสินธุ์ คลองหอยโข่ง) 70 ตำบล 435 หมู่บ้าน 56,873 ครัวเรือน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ นายกรัฐมนตรีกำชับการลงพื้นที่ ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนและกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน เน้นย้ำให้ลงพื้นที่เพื่อไปรับทราบข้อมูลความเดือดร้อน พร้อมกับเร่งให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th