วันนี้ (17 ธ.ค. 63) เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค. สถานการณ์ประจำวัน และความก้าวหน้าในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
โฆษก ศบค. รายงานผลการประชุม ศบค. ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเข้มงวดกับการปฏิบัติการตามมาตรการสาธารณสุข โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ให้เพิ่มความเข้มงวด และดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะผู้กระทำความผิดต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงในการทำให้เกิดการแพร่ระบาด หรือผู้ที่ฝ่าฝืนให้ได้รับโทษตามกฎหมาย โดย ผอ.ศบค. ให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจกับภาคประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นโดยรวมและควบคุมการตื่นตระหนก ให้ประชาชนมั่นใจว่าสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ปกติ สามารถท่องเที่ยวในประเทศได้ หากปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญเน้นย้ำให้บันทึกข้อมูลลงใน ?ไทยชนะ? ทุกครั้ง โดยสามารถดำเนินการสอดคล้องไปกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐได้จัดขึ้น เช่น มาตรการคนละครึ่ง และมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือพี่น้องภาคการท่องเที่ยวของประเทศ
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20 ราย มาจาก State Quarantine หรือสถานที่กักกันของรัฐจัดให้ทั้งหมด ทำให้มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 4,281 ราย (ติดเชื้อในประเทศ 2,463 ราย) รักษาหายป่วยแล้ว 3,989 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 232 ราย และผู้เสียชีวิตยังคงที่อยู่ที่ 60 ราย สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของโลก พบผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 74,526,806 ราย เพิ่มขึ้น 714,908 ราย มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1,655,044 ราย เพิ่มขึ้น 13,446 ราย โดยสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือ อินเดีย บราซิล รัสเซีย และฝรั่งเศส ตามลำดับ ส่วนประเทศไทยขณะนี้อยู่ลำดับที่ 152 ของโลกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จากทั้งหมด 216 ประเทศ
มาตรการการดูแลสาธารณสุขตามแนวชายแดน พบผู้ติดเชื้อในกรณีท่าขี้เหล็กจำนวน 67 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงราย และทุกรายตอนนี้อยู่ใน Local Quarantine โดย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงร่วมกับกระทรวงมหาดไทยได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจข้อเท็จจริง และสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างชายแดน ในการจับกุม ดูแล คนที่ผ่านเข้ามา ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยได้ซักซ้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด เพื่อวางมาตรการการปฏิบัติในพื้นที่ชายแดน พื้นที่ตอนใน และพื้นที่ระดับหมู่บ้าน/ชุมชนอย่างเคร่งครัด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนให้เป็นหูเป็นตาผู้ที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย โดย ผอ.ศบค. ได้ชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด ที่ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง มั่นใจว่าจะปกป้องแนวชายแดนได้เป็นอย่างดี สำหรับการจัดงานรื่นเริง คอนเสิร์ต ดนตรี นาฏศิลป์ การแสดง เพื่อการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ สามารถจัดงานได้ โดยผู้จัดงานและผู้ร่วมงานควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
ด้านการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโลก การทดลองจากบริษัทต่าง ๆ มีความพร้อมของวัคซีนที่ก้าวหน้าร้อยละ 62-95 โดยในส่วนของประเทศไทยได้มีแผนการจัดหาร้อยละ 50 ของจำนวนประชากร (ประมาณ 33 ล้านคน) เป็นการจัดซื้อจัดหาและร่วมผลิตกับแอสตราเซเนกาประมาณ 26 ล้านโดส และมีการร่วมมือกับ COVAX Facility โดยมี WHO เป็นแกนกลาง พร้อมสนับสนุนการวิจัยของประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ที่ประชุมรับทราบการปรับวันตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้เข้ากักตัวในสถานกักกันตามที่ราชการกำหนด โดยการตรวจเพื่อยืนยันหาเชื้อ (Swab) 3 ครั้ง แบ่งเป็น ครั้งที่ 1 ช่วงวันที่ 0 ? 1 ครั้งที่ 2 ช่วงวันที่ 9 ? 10 และครั้งที่ 3 ช่วงวันที่ 13 ? 14 เริ่มดำเนินการวันที่ 1 ? 31 ธ.ค. 63 และจะวิเคราะห์และประเมินผลในวันที่ 1 ? 15 ม.ค. 64 พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแนวทางลดค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อโควิด?19 ของโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับ ASQ นอกจากนี้ยังรับทราบการปรับหลักเกณฑ์การอนุญาตให้เรือยอร์ชเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยขยายระยะเวลาการอนุญาตเพิ่มเติมอีก 15 วัน เป็นเวลา 30 วัน จนถึงวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ขณะเดียวกันได้พิจารณาขยายเวลาการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับชาวต่างชาติ CoE (Certificate of Entry) กรณีไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ทันในระยะเวลาที่กำหนด โดยสามารถขยายระยะเวลาออกไปอีกอย่างน้อย 24 ชม. ไม่แต่เกิน 72 ชม. โดยแบ่งเป็น 1. สิทธิการยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผ.30 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวได้ไม่เกิน 30 วัน 2. ตามสิทธิการยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผผ.30 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวได้ไม่เกิน 30 วัน และ 3. สิทธิการยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผ.90 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวได้ไม่เกิน 90 วัน
นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงมหาดไทย เพื่อคงมาตรการยกเลิกการอนุญาตให้คนต่างด้าวยื่นขอตรวจลงตรา Visa on Arrival : VOA ออกไปจนกว่าสถานการณ์โควิด?19 จะคลี่คลาย และให้คงการยกเลิกให้คนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ตามสิทธิการยกเว้นการตรวจลงตราได้ไม่เกิน 14 วัน ประเภท ผผ.14 สำหรับกัมพูชาและเมียนมา อีกทั้งขยายระยะเวลาการอนุญาตให้พำนักอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพิ่มเติมอีก 15 วัน ได้แก่ 1. Transit Visa 2. Tourist Visa ประเภท ผ.30 (56 ประเทศ) และ 3. บุคคลเดินทางเพื่อการประชุมหรือแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศซึ่งรัฐบาลไทยเป็นเจ้าภาพ หรือได้รับความเห็นชอบจากส่วนราชการ รวมทั้งได้อนุญาตให้บริษัทเอกชนนำบุคคลต่างชาติเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเข้ารับการกักกันใน OQ และสามารถปฏิบัติงานได้ทันที โดยให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด สำหรับการจัดการแข่งขันกอลฟ์รายการ Honda LPGA Thailand 2021 ณ ประเทศไทย นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการการจัดการแข่งขันฯ วันที่ 3 ? 9 พ.ค. 2564 ทั้งนี้ จำนวนของผู้เข้าชมต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด?19 ในห้วงเวลาดังกล่าวด้วย
ในตอนท้าย โฆษก ศบค. ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีแนวทางการลดระยะเวลากักตัว และเพิ่มการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จาก 2 ครั้งเป็น 3 ครั้ง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะนำผลการทดลองประเมินผลในช่วง 1 เดือนไปพิจารณาเพื่อหาทิศทางเพิ่มเติม และในส่วนของการปฏิบัติใช้ก็จะต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากที่ประชุม ศบค. ก่อน โดยจะมีการติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ โฆษก ศบค. กล่าวถึงกรณีบุคลากรทางสาธารณสุขติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งข้อมูลจากทีมสอบสวนโรคเมื่อเข้าไปสำรวจในพื้นที่พร้อมเก็บตัวอย่าง พบว่าอาจมีการติดเชื้อจากการสัมผัสลูกบิดประตู การพูดคุยบนโต๊ะอาหารซึ่งละอองฝอยจากน้ำลายสามารถกระจายได้ถึง 2 เมตร จึงฝากให้ช่วยกันทำความสะอาดลูกบิดประตู ราวบันได และจุดสัมผัสอื่น ๆ ด้วย
-----------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th