วันนี้ (24 ธ.ค. 63) เวลา 12.15 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ยืนยันไม่มีการพิจารณาล็อคดาวน์ในที่ประชุม พร้อมแบ่งพื้นที่ตามสถานการณ์ 4 พื้นที่ 1) พื้นที่ควบคุมสูงสุด 2) พื้นที่ควบคุม 3) พื้นที่เฝ้าระวัง และ 4) พื้นที่เฝ้าระวัง
โฆษก ศบค. กล่าวรายละเอียด 4 พื้นที่ แบ่งเป็น 1) พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากและมีมากกว่า 1 พื้นที่ (ย่อย) จะต้องเร่งรัดการตรวจหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มบุคคลที่เสี่ยง และกิจกรรม/กิจกรรมที่เสี่ยง แยกกักผู้ติดเชื้อด้วยการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ตามขีดความสามารถ โดยมอบกระทรวงกลาโหมสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข พร้อมพิจารณาเยียวยาและดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัวผู้ติดเชื้อ ย้ำทุกคนสวมหน้ากากอนามัย 100% เน้นการทำความสะอาดบริเวณจุดสัมผัส หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก การติดตั้ง Application หมอชนะ เพิ่มเติมจากการใช้ Application ไทยชนะ การเปิด ? ปิดสถานประกอบการที่มีความจำเป็น ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า ? ออกจากพื้นที่เด็ดขาด ควบคุมการเข้า - ออกยานพาหนะและบุคคลคนไทย โดยไม่ให้กระทบต่อการค้าและการอุตสาหกรรมมากเกินความจำเป็น ให้มีการจัดตั้งด่านตรวจคนคัดกรอง จุดสกัด และสายตรวจ เพื่อให้มีการควบคุมและจำกัดการเข้า ? ออกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้มาตรการ Work From Home อย่างเต็มขีดความสามารถ อีกทั้ง สถานศึกษาปรับรูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก 2) พื้นที่ควบคุม พื้นที่ที่ติดกับพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 ราย และมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว งดจัดกิจกรรมสาธารณะ ยกเว้นกิจกรรมที่จำกัดจำนวนคน หรือกิจกรรมสำหรับคนรู้จักคุ้นเคย ไม่ใช่กรณีที่มีคนจำนวนหลายร้อยคน 3) พื้นที่เฝ้าระวัง พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย แต่มีแนวโน้มสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และ 4) พื้นที่เฝ้าระวัง พื้นที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ ซึ่งนำไปสู่การแบ่งพื้นที่เพื่อออกมาตรการต่าง ๆ
ทั้งนี้ สถานประกอบการยังเปิดดำเนินการได้ การประมงสามารถดำเนินการได้แต่ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนการออกเรือ ทั้งนี้ ในส่วนของอาหารที่นำขึ้นมาจากทะเลต้องมีการตรวจหาเชื้อ โดยให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุขสร้างความมั่นใจตรวจหาเชื้อในสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้คนไทยมั่นใจบริโภคและการส่งออกของประเทศอีกด้วย โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดมีอำนาจใช้ข้อกำหนด ข้อพิจารณาออกมาตรการต่าง ๆ ออกมา
นายกรัฐมนตรีได้มอบให้โฆษก ศบค. เป็นผู้แถลงข่าวชี้แจงสถานการณ์โควิด-19 ให้สื่อมวลชนและประชาชนรับทราบทุกวัน โดยจะเป็นชุดข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือ update แถลงอย่างเป็นทางการให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับทราบต่อไปในเวลา 11.30 น. ทุกวัน จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนติดตามรับฟังข้อมูลจากการแถลงดังกล่าวเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริงไปในทิศทางเดียวกัน ป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน
สำหรับการจัดกิจกรรมในช่วงปีใหม่นั้น สามารถจัดกิจกรรมปีใหม่ได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ ดังนี้ พื้นที่ควบคุมสูงสุด งดการจัดกิจรรมฉลองทุกชนิด เว้นแต่การจัดกิจกรรมแบบออนไลน์ พื้นที่ควบคุม งดการจัดกิจกรรมที่เป็นสาธารณะแต่ผ่อนผันให้จัดกิจกรรมที่จำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรม หรือกิจกรรมที่มีเฉพาะผู้ที่รู้จักคุ้นเคยได้ (เช่น เพื่อนคนที่รู้จักคุ้นเคยกัน จำนวนไม่มาก) หรือพิจารณาจัดกิจกรรมแบบออนไลน์ ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวังนั้น สามารถจัดกิจกรรมได้ แต่ลดขนาดงานให้เล็กลงมีมาตรการลดความหนาแน่นของผู้ร่วมกิจกรรม และมีมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดความคับคั่ง ทั้งนี้ โฆษก ศบค. ยืนยันว่าการจัดกิจกรรมวันเด็กและปีใหม่สามารถทำได้โดยพิจารณาตามสถานการณ์และสถานะ ณ วันนั้นของแต่ละพื้นที่ประกอบด้วย
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในไทยวันนี้พบผู้ป่วยใหม่ 67 ราย เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 58 ราย โดย 1 ราย เป็นหญิงชาวกัมพูชา เดินทางมาจากกัมพูชาตามเส้นทางธรรมชาติแล้วไม่เข้าสถานที่กักกัน 8 ราย เป็นผู้ที่อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ส่วนรายที่ 10 ? 67 เป็นผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดกลางกุ้งสมุทรสาคร และเดินทางไปหลายจังหวัด ทั้งนี้ แรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาคร ถึงขณะนี้มีจำนวนรวม 1,273 ราย ขณะที่ สถานการณ์โควิด-19 โลก มีผู้ป่วยรวม 79 ล้านคน ผู้เสียชีวิต 1.7 ล้านคน โดยเมียนมามีผู้ป่วยใหม่ 923 คน ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 143
ศปม. โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รายงานพื้นที่ควบคุมสูงสุดของจังหวัดสมุทรสาคร มี 20 ไร่ มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 4,000 คน เป็นต่างด้าว 3,800 คน คนไทย 200 คน มีการวางลวดหนาม ติดตั้งไฟส่องสว่าง มีรถชุดเคลื่อนที่ตรวจภายใน 6 จุดลาดตระเวนโดยรอบ พร้อมชุดตรวจร่วมเพื่อบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ ใน 7 พื้นที่ ตั้งจุดตรวจร่วม 12 จุดเพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายของแรงงานต่างด้าวออกนอกจังหวัดทั้งทางบกและทางทะเล นอกจากนี้ พื้นที่รอบนอกจังหวัดสมุทรสาคร ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ตั้งชุดตรวจร่วม 13 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดโดยรอบเพื่อควบคุมการเดินทางออกจากสมุทรสาคร รวมทั้งมีการยกระดับเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน บริเวณแนวชายแดนตลอด 24 ชม. ที่จังหวัดกาญจนบุรี 3 จุด ตาก 8 จุด เชียงราย 24 จุด ระนอง 15 จุด สงขลา 5 จุด รวม 55 จุด ทั้งนี้ ขอความร่วมมือชาวต่างประเทศที่อยู่โดยรอบประเทศไทย ขอให้อยู่ในที่ตั้ง ไม่ต้องเดินทางเข้ามาในขณะนี้
โอกาสนี้ โฆษก ศบค. ตอบคำถามต่อสื่อมวลชนกรณีการจัดงานฉลองวันปีใหม่ พ.ศ. 2564 ว่า ขอความร่วมมือให้งดจัดงานฉลองในพื้นที่ควบคุมสูงสุด สำหรับพื้นที่ควบคุมและพื้นที่อื่น ๆ ให้พิจารณาจัดงานฉลองกันในเครือญาติ หรือในลักษณะพบปะกันภายในครอบครัวในที่อยู่อาศัย และขอความร่วมมือผู้จัดงานฉลองปีใหม่ให้หลีกเลี่ยงการจัดงาน เพราะไม่สามารถทราบได้ว่าคนที่ร่วมงานเดินทางมาจากไหนบ้าง หรือจะมีผู้เข้าร่วมงานกี่คน
สำหรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่อื่น ๆ นอกเหนือจากจังหวัดสมุทรสาคร โดยรัฐบาลให้ความสำคัญในการดูแลประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยผู้ที่จะเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายนั้นต้องเข้าหลักเกณฑ์ตามที่สาธารณสุขกำหนด อาทิ สัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยง มีอาการเจ็บป่วย เป็นโรคปอดอักเสบ หรือสามารถใช้สิทธิตามสิทธิบัตรประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สิทธิข้าราชการ หรือ สิทธิประกันสังคม รวมไปถึงแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยในฐานะคนทำงาน หากนายจ้างสามารถยืนยันการสัมผัสกลุ่มเสี่ยง หรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงก็สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมยืนยันว่าจะดูแลแรงงานต่างด้าวให้ดีที่สุด
ในตอนท้าย โฆษก ศบค. ยืนยัน ขณะนี้ มีจังหวัดสมุทรสาครเพียงจังหวัดเดียวที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ประชาชนยังเดินทางไปจังหวัดต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่หรือหลังจากนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ติดตามการประกาศเพิ่มเติมของแต่ละพื้นที่เป็นระยะ ให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับภาครัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือสม่ำเสมอ และเว้นระยะห่าง
----------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th