วันนี้ (12 ม.ค. 64) เวลา 13.30 น. ณ โถงตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าได้มีการหารือกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ จัดทำมาตรการเศรษฐกิจบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งมีมาตรการลดค่าใช้จ่ายประชาชน อาทิ ส่วนลดค่าไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 2 เดือน ตามใบแจ้งหนี้เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2564 สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยหากใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก หากใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าตามที่เงื่อนไขกำหนด สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ากิจการขนาดเล็ก ไม่ร่วมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ให้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 50 หน่วยแรก ค่าน้ำประปาส่วนลดร้อยละ 10 เฉพาะบ้านที่อยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก ไม่ร่วมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตามใบแจ้งหนี้เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2564 รวมทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกสทช. จะขอความร่วมมือผู้ให้บริการเครือข่ายต่าง ๆ เพิ่มความแรงและความเร็วของอินเทอร์เน็ตบ้าน อินเทอร์เน็ตมือถือ สนับสนุนการ Work From Home และให้ประชาชนโหลดแอปพลิเคชัน ?หมอชนะ? ฟรี ไม่คิดค่า Data เป็นระยะเวลา 3 เดือน นายกรัฐมนตรียังเผยถึงการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายผ่าน ?โครงการคนละครึ่ง? พบว่าสามารถช่วยเหลือประชาชนและทำให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าไปได้ด้วยดี จึงจะเปิดให้มีการลงทะเบียนใหม่อีก 1 ล้านสิทธิในช่วงปลายเดือนมกราคม 2564
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้มีนโยบายเยียวยารายได้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ โดยคำนึงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาวงเงินช่วยเหลือที่เหมาะสม แรงงานนอกระบบ อาชีพอิสระ เกษตรกร จำนวน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยให้นำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า สำหรับการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป โดยกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยมีมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่อง ในวงเงินประมาณ 200,000 ล้านบาท อาทิ สินเชื่อธนาคารออมสิน 10,00 -15,000 บาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำ 0.1 ถึง 0.35 ต่อเดือน รวมถึงช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานในระบบประกันสังคม อาทิ ลดหย่อนเงินสมทบนายจ้าง ให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองเงินไปก่อน พร้อมส่งเสริมการจ้างงานและรักษาระดับการจ้างงาน โดยเฉพาะโครงการส่งเสริมการจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ทั้งในภาครัฐและเอกชนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เร่งพิจารณาปรับปรุงเงื่อนไขต่าง ๆ รวมถึงพิจารณาดูแลแรงงานที่อยู่นอกระบบประกันสังคมด้วย ทั้งนี้ ยังเห็นชอบเรื่องขยายระยะเวลาการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยลดภาษีที่ดินร้อยละ 90 ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์เหลือร้อยละ 0.01 โดยให้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยประกาศกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า ได้เร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ จัดสอบข้าราชการให้เร็วขึ้นกว่าทุกปีเพื่อทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภททั้งการสอบวัดระดับความรู้ความสามารถทั่วไป และการสอบคุณสมบัติเฉพาะตามวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาจบใหม่ คนรุ่นใหม่ ที่อยากรับราชการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารประเทศยุคใหม่ของรัฐบาลอีกด้วย
.........................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th