นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอย่างถูกจุด เน้นปากท้องการดำรงชีพ ดูแลเศรษฐกิจควบคู่แนวทางด้านสาธารณสุข พร้อมขอความร่วมมือทุกคนปฏิบัติตนโดยเคารพกฎหมาย

ข่าวทั่วไป Wednesday January 27, 2021 13:50 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาอย่างถูกจุด เน้นปากท้องการดำรงชีพ ดูแลเศรษฐกิจควบคู่แนวทางด้านสาธารณสุข พร้อมขอความร่วมมือทุกคนปฏิบัติตนโดยเคารพกฎหมาย

วันนี้ (27 มกราคม 2564) เวลา 17.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมพูดคุยกับประชาชนผ่าน PM PODCAST เน้นสื่อสารตรงไปยังประชาชน สรุปประเด็นดังนี้

ในช่วงแรกนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แม้ว่าในช่วงนี้จะไม่ได้ลงพื้นที่ไปพบกับพี่น้องประชาชนเพื่อลดความเสี่ยงตามมาตรการสาธารณสุข แต่ในขณะเดียวกันได้มีการประชุมกลุ่มย่อยทั้งภาครัฐ เอกชน และผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อทราบถึงปัญหาที่แท้จริง และแก้ปัญหาให้ถูกจุด เน้นเรื่องปากท้องการดำรงชีพ ดูแลเศรษฐกิจควบคู่ไปกับแนวทางด้านสาธารณสุข โดยได้สั่งการให้กระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงาน หาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกันตน มาตรา 33 ซึ่งล่าสุด ครม. ได้ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมเหลือ 3% ตั้งแต่เดือนมกราคม ? มีนาคม 2564 และหากว่างงานจะได้รับชดเชยหรือเยียวยา กรณีถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินชดเชย 70% ของค่าจ้าง กรณีเหตุสุดวิสัย ได้รับเงินเยียวยา 50% ของเงินเดือน สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เป็นต้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง การประชุม ครม.ได้มีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น ลดภาษีที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง 90% ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนอง 0.01% ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีสถานประกอบการสปา นวดเพื่อสุขภาพ ขยายเวลายื่นภาษีบุคคลธรรมดาออกไปจนถึง 30 มิถุนายน 2564 และการลงทะเบียน โครงการเราชนะ สำหรับผู้ที่ไม่มีฐานข้อมูลที่จะเริ่ม 29 มกราคม สำหรับกลุ่มอาชีพอิสระ หาบเร่แผงลอย รับจ้าง เกษตรกร ที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ประมาณ 30 ล้านคน รัฐบาลก็จะช่วยเหลือเงินเยียวยา 2 เดือน รวม 7,000 บาท ตั้งแต่เดือนมกราคม ? กุมภาพันธ์ 2564 นี้ สามารถใช้จ่ายได้ผ่านร้านธงฟ้า ร้านหาบเร่แผงลอย หรือใช้เป็นค่าเดินทาง สำหรับผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ?เราชนะ? ได้ เป็นต้น

นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่าคนไทยทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิดฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และสตรีมีครรภ์ พร้อมย้ำว่าวัคซีนที่เข้ามาจะต้องผ่านการรับรองของ อย. เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ประมาณ 19 ล้านคน ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ผู้มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมโควิดและมีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วย โดยวัคซีนล็อตแรก 50,000 โดส ที่จะเข้ามาเร็ว ๆ นี้ จะฉีดให้กับบุคลากรสาธารณสุข และตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ในพื้นที่เสี่ยง ก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ส่วนในระยะที่ 2 จะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม 2564 ครอบคลุมประชาชนกลุ่มที่มีความเสี่ยงในลำดับถัดไป ซึ่งเพียงพอกับความต้องการคนไทยทั้งประเทศ พร้อมย้ำว่าประเทศไทยจะกลายเป็นฐานการผลิตวัคซีนของอาเซียน โดยดำเนินการตั้งแต่ต้นน้ำ จากการที่ได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศตามที่รัฐบาลกำหนดไว้

นายกรัฐมนตรียังฝากถึงประชาชนให้ช่วยกันเก็บกักน้ำ โดยเฉพาะน้ำกินน้ำใช้ รวมทั้งการวางแผนน้ำเพื่อการเกษตร ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยเพื่อลดผลกระทบ ขณะที่รัฐบาลได้วางแผนขุดแหล่งเก็บน้ำเพิ่ม วิธีการนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้อย่างปลอดภัย กำชับให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ดำเนินการให้ครบวงจร เตรียมการร่วมกับท้องถิ่น ดำเนินแผนบริหารจัดการน้ำ ป้องกันปัญหาภัยแล้งอย่างเป็นรูปธรรม

นายกรัฐมนตรียังกล่าวในช่วงท้าย รัฐบาลพยายามแก้ไขทุกปัญหาภายใต้กฎหมาย กฎระเบียบ พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ทุกคนปฏิบัติตนโดยเคารพกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส เป็นธรรม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะรักและสามัคคีกัน นำพาประเทศชาติไปสู่ความก้าวหน้าในอนาคต

?????????????

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ