วันนี้ (2 ก.พ. 64) เวลา 13.30 น. ณ โถงตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน เกี่ยวกับสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้ระมัดระวังในการนำเสนอข่าว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและประชาชนโดยรวม ยืนยันประเทศไทยยึดหลักการของอาเซียน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาในทุกมิติ โดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ร่วมหารือทยอยดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังตกหล่นตามลำดับ สำหรับการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายนั้น ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานเพื่อเจรจาพูดคุยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และปกป้องการลงทุนของประเทศไทยด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการเรียกเก็บค่าเทอมและค่าใช้จ่ายที่ไม่สอดคล้องกับเปิดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมขอความร่วมมือสถาบันการศึกษาพิจารณาลดค่าเทอมและคืนเงินแก่ผู้ปกครอง ไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดที่ไม่มีความจำเป็นในการเรียนการสอนแบบออนไลน์
นายกรัฐมนตรียังแสดงความเห็นใจกรณีการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยขออย่าตื่นตระหนก ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ระงับการเรียกคืนดังกล่าว และหามาตรการที่เหมาะสมต่อไป นายกรัฐมนตรีย้ำว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นกลไกของรัฐบาลที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อำนวยการเช่นเดียวกันกับในทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ใช่เป็นของทหารหรือของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนซื้อดอกป๊อปปี้ เนื่องในวันทหารผ่านศึก (3 ก.พ. 64) เพื่อช่วยกันสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในการนำรายได้ไปดูแลทหารและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานในช่วงที่ผ่านมา
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกคนช่วยกันอดทน เข้มแข็ง เสียสละ และรับผิดชอบร่วมกันในการจำกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการตรวจสอบคัดกรองในพื้นที่เข้มงวดสูงสุด ซึ่งได้มีการผ่อนคลายหลายมาตรการด้วยกันแต่ขอให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุดเพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ รัฐบาลก็ได้ดำเนินการเรื่องวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องจำนวนวัคซีนที่ได้รับ ระยะเวลาที่ได้รับวัคซีน และแผนการฉีดวัคซีน ซึ่งคำนวณจากกำลังการผลิตวัคซีนโควิด-19 จากทั่วโลกขณะนี้ได้มีการรับรองวัคซีนเพียง 2 ประเภทและจะมีการทยอยดำเนินการต่อไปตามลำดับความเร่งด่วน
..................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th