นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล อภิปรายพาดพิง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการใช้อำนาจแทรกแซงกรณีที่ กสทช. จ่ายค่าชดเชยค่าคลื่นความถี่ 2600 MHz ของ บมจ.อสมท. กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ว่า ประเด็นปัญหาเกิดจากการที่ กสทช. เรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือนำไปใช้ประโยชน์ได้ เป็นอำนาจอิสระของ กสทช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 60 ซึ่ง กสทช. เองได้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ แต่ต้องทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้ที่ถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ ซึ่งก็คือ บมจ.อสมท. และ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ในฐานะคู่สัญญา โดยรัฐบาล หรือ นายกรัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจดังกล่าว ซึ่งหลักเกณฑ์การทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนเป็นการใช้อำนาจโดยชอบของ กสทช. ทั้งหมด
ส่วนการแต่งตั้งกรรมการต่างๆ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนดขึ้น ซึ่งองค์ประกอบก็เป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์เรียกคืนคลื่นความถี่ทุกประการ ในส่วนนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เป็นองค์กรอิสระ จะถูกผิดอย่างไร เป็นเรื่องของกรอบอำนาจหน้าที่ของ กสทช. รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายได้ ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลจะเข้าไปกำกับหรือสั่งการในส่วนนี้ตามที่ถูกพาดพิง
นอกจากนี้ จากกรณีปัญหาดังกล่าว ทำให้เกิดการร้องเรียนกรณีการชดเชยค่าคลื่นความถี่ โดย สหภาพแรงงาน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มีความเป็นห่วงกรณีที่มีการแบ่งค่าชดเชยระหว่าง บมจ.อสมท. และ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ในส่วนนี้รัฐบาลรวมถึงนายกรัฐมนตรีไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ รัฐบาลมีอำนาจเพียงเข้าไปติดตามดูว่ามีดำเนินการตามระเบียบและกระบวนการทางกฎหมายหรือไม่เพียงเท่านั้น
ที่มา: http://www.thaigov.go.th