วันนี้ (3 มี.ค.64) เวลา 13.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ครั้งที่ 1/2564 โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สศช. ในฐานะกรรมการและเลขานุการ และนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำความสำคัญของการประชุมครั้งนี้ว่าเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้เข้มแข็งใน ระดับพื้นที่ 6 ภาค 18 กลุ่มจังหวัด และ 76 จังหวัด ด้วยการบูรณาการเชื่อมโยงการพัฒนาจาก Top Down และ Bottom Up เน้นแผนงานโครงการต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ชัดเจน โปร่งใส ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนโดยตรง และมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน ซึ่งที่ประชุมมีได้มติเห็นชอบในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
1. เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาคตะวันออก (อ.ก.บ.ภ.ภาคตะวันออก) ได้แก่ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน อ.ก.บภ.ภาคตะวันออก และแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาคใต้และใต้ชายแดน (อ.ก.บ.ภ.ภาคใต้และ ใต้ชายแดน) เพิ่มเติม ได้แก่ นายอรัญ วงษ์อนันต์ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
2. เห็นชอบการขอปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 แผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค ของกรมการข้าวและกรมชลประทาน รวม 4 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 273.4190 ล้านบาท
3. เห็นชอบแผนปฏิบัติการภาค 6 ภาค (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคใต้ชายแดน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวน 505 โครงการ วงเงิน 63,595.7573 ล้านบาท โดยประเภทโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการดังกล่าวมุ่งเน้นในด้าน เกษตร โครงสร้างพื้นฐาน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาแหล่งน้ำ ท่องเที่ยว การค้าชายแดน สังคม/คุณภาพชีวิต และอุตสาหกรรม เป็นต้น
4. เห็นชอบแผนพัฒนาจังหวัด 76 จังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2561?2565 ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยนโยบาย หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดทำแผนจังหวัดและกลุ่มจังหวัดสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บท 23 ประเด็น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายรัฐบาล แผนบริหารราชการแผ่นดิน แผนรายสาขา/เฉพาะด้าน และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยให้จัดลำดับความสำคัญของปัญหาและความต้องการของประชาชนพร้อมระบุพื้นที่/กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน
5. เห็นชอบแผนปฏิบัติราชการประจำปี ของจังหวัด 76 จังหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยเป็นงบประมาณที่เห็นควรสนับสนุนในกรอบวงเงินจำนวน 1,303 โครงการ มูลค่า 29,085.8298 ล้านบาท และงบประมาณที่เห็นควรสนับสนุนเกินกรอบวงเงินจำนวน 454 โครงการ มูลค่า 13,796.5101 ล้านบาท ทั้งนี้ ประเภทโครงการ ฯ ภายใต้แผนปฏิบัติการ ฯ ประกอบด้วย โครงสร้างพื้นฐาน ท่องเที่ยว พัฒนาแหล่งน้ำ เกษตร สังคมและคุณภาพชีวิต ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การค้า การลงทุนและอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ปล่อยปละละเลย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส และต้องไม่ก่อให้เกิดการทุจริต
-----------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th