วันนี้ (1 เมษายน 2564) เวลา 11.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางอานา มาเรีย ปริเอโต อาบัด (H.E. Mrs. Ana Maria Prieto Abad) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโคลอมเบียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตโคลอมเบียฯ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับโคลอมเบียที่มีความราบรื่นมาตลอดซึ่งจะครบรอบ 42 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ไทยและโคลอมเบียควรเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ตลอดจนสนับสนุนให้มีการจัดการประชุม Bilateral Consultations ครั้งที่ 3 เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมและขยายความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ
เอกอัครราชทูตโคลอมเบียฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบ พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-โคลอมเบียที่มีความใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน และเห็นพ้องกับนายกรัฐมนตรีในการเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้นในทุกระดับ โดยโคลอมเบียแสดงความสนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิก APEC เพื่อเป็นโอกาสในการขยายความร่วมมือพหุภาคีระหว่างกันมากขึ้น นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตโคลอมเบียฯ ชื่นชมรัฐบาลไทยที่สามารถควบคุมและจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ชื่นชมกระบวนการฉีดวัคซีนอย่างเป็นระบบของไทย ด้านนายกรัฐมนตรียืนยันพร้อมร่วมมือกับโคลอมเบียในการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด-19 อย่างยั่งยืน รวมถึงยินดีให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านการแพทย์และการพัฒนาวัคซีนแก่โคลอมเบียด้วย
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรกรรม ซึ่งทั้งสองประเทศมีศักยภาพ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมนโยบายเศรษฐกิจสีส้ม (Orange Economy) ของโคลอมเบีย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทยที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เป็นวิสาหกิจชุมชนขนาดย่อมในรูปแบบ SMEs พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการระหว่างกัน ตลอดจนเชิญชวนให้โคลอมเบียใช้ไทยเป็นฐานในการลงทุนเพื่อขยายตลาดเข้าสู่ประเทศอาเซียน ตามนโยบาย Thailand Plus One
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน นายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลโคลอมเบียที่ได้จัดหลักสูตรอบรมภาษาสเปนเพื่อยกระดับความสามารถให้แก่บุคลากรภาครัฐ และภาคเอกชนของไทยซึ่งได้จัดต่อเนื่องมากว่า 5 ปี โดยฝ่ายไทยพร้อมสนับสนุนทุนฝึกอบรมในสาขาที่ไทยมีศักยภาพแก่ชาวโคลอมเบียเช่นกัน ตลอดจนยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการที่ดิน การปลูกพืชทดแทนพืชเสพติด และการท่องเที่ยวป่าเชิงอนุรักษ์แก่โคลอมเบีย
สำหรับประเด็นสถานการณ์การเมืองในประเทศเมียนมา นายกรัฐมนตรียืนยันไทย และอาเซียนพร้อมสนับสนุนแนวทางสันติและสร้างสรรค์ต่อสถานการณ์เมียนมา ทั้งนี้ ไทยมีแนวปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยชาวเมียนมา โดยยึดหลักการสากล และหลักมนุษยธรรม
ที่มา: http://www.thaigov.go.th