วันนี้ (23 มิถุนายน 2564) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายฮาจี อิซมาอิล บิน ฮาจี อับดุล มานัป (H.E. Mr. Haji Ismail bin Haji Abd Manap) เอกอัครราชทูตบรูไนดารุสซาลามประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างไทยกับบรูไนฯ ที่ดำเนินมาอย่างราบรื่น พร้อมทั้งขอบคุณเอกอัครราชทูตบรูไนฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างกัน ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ดำรงตำแหน่ง พร้อมหวังว่าเอกอัครราชทูตบรูไนฯ จะมีบทบาทสำคัญในการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประเทศไทยในเวทีโลก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานของเอกอัครราชทูตบรูไนฯ คนใหม่อย่างใกล้ชิดเพื่อสานต่อความร่วมมือระหว่างกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและบรรลุตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ที่ทั้งสองมีศักยภาพร่วมกัน
เอกอัครราชทูตบรูไนฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ดำรงตำแหน่ง ยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบรูไนฯ มีความใกล้ชิดกันเสมือนเพื่อนที่สนิท โดยในช่วงก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งสองประเทศมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันมาโดยตลอด รวมถึงมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันในหลายด้าน อาทิ ด้านการศึกษา และด้านสาธารณสุข นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตบรูไนฯ ชื่นชมความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ด้านนายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลบรูไนฯ ที่ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในบรูไนฯ ทั้งในเรื่องการฉีดวัคซีนและการเดินทางกลับประเทศ
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าไทยและบรูไนฯ ยังมีศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะด้านการเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร และอุตสาหกรรมฮาลาล การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมวิสัยทัศน์แห่งชาติของบรูไนฯ (Wawasan 2035)
สำหรับประเด็นความร่วมมือพหุภาคี นายกรัฐมนตรีชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของบรูไนฯ ในฐานะประธานอาเซียน ท่ามกลางสถานการณ์และความท้าทายหลายประเด็นในช่วงปีนี้ ยืนยันไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินบทบาทที่แข็งขันของบรูไนฯ ในเวทีอาเซียน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าอาเซียนควรกระชับความร่วมมือกันในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม อาทิ ปัญหาโลกร้อน การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และขยะทะเล เป็นต้น
ที่มา: http://www.thaigov.go.th