นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป เน้นย้ำการพัฒนาอย่างยั่งยืนและแนวทางเศรษฐกิจ BCG เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19

ข่าวทั่วไป Friday July 2, 2021 13:56 —สำนักโฆษก

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป เน้นย้ำการพัฒนาอย่างยั่งยืนและแนวทางเศรษฐกิจ BCG เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19

วันนี้ (2 กรกฎาคม 2564) เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายปีร์กกา ตาปีโอลา (H.E. Mr. Pirkka Tapiola) เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-สหภาพยุโรป รวมทั้งมีส่วนผลักดันในการปลดใบเหลืองอุตสาหกรรมการประมงของไทย และชี้แจงสถานการณ์ทางการเมืองไทยแก่สมาชิกสหภาพยุโรปจนนำไปสู่การเพิ่มพูนความสัมพันธ์ พร้อมแสดงความยินดีที่มีการพัฒนาในด้านความร่วมมือ ทั้งการออกยุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การเปิดการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป (FTA) และกรอบความตกลงเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (Partnership and Cooperation Agreement : PCA) ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนและการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่น ไทยมุ่งหวังว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะบรรลุผลโดยเร็ว และนำไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์เป็น ?หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์? ระหว่างกัน

เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ยินดีที่ไทยและสหภาพยุโรปมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและครอบคลุมในทุกมิติ โดยสหภาพยุโรปยืนยันจะยังคงสานต่อความสัมพันธ์ และความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านความมั่นคง การค้า และการลงทุนอย่างเสรี ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ได้ระบุว่าไทยยังคงจัดอยู่ในรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยของสหภาพยุโรป พร้อมหวังว่าการฉีดวัคซีนของไทยจะครอบคลุมประชากรไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยในไทยโดยเร็ว ซึ่งพร้อมสนับสนุนความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าควรผลักดันและขยายความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนอย่างเสรีและเป็นประโยชน์ต่อกันเพื่อเร่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไทยและสหภาพยุโรปยึดมั่นค่านิยมเดียวกันในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจะสามารถเชื่อมโยงแผนปฏิรูปยุโรปสีเขียว (European Green Deal - EGD) ที่มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2593 กับแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) ของไทย รวมทั้งยินดีร่วมมือด้านการวิจัยและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจที่เน้นนวัตกรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเชิญชวนให้สหภาพยุโรปขยายการลงทุนในไทยและถ่ายทอดนวัตกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) และการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยสอดคล้องกับนโยบาย Thailand+1 ของไทย

ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมองการบริหารราชการดำเนินนโยบายของไทยในหลายประเด็น โดยนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทย โดยเน้นย้ำว่าไทยมีกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลตามรัฐธรรมนูญ และฝ่ายค้านสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญได้อย่างเสรี รวมทั้งประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และในการชุมนุมประท้วงอย่างสันติและอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย รัฐบาลไทยมีความจริงใจในการรับฟัง/แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงข้อเรียกร้องจากผู้ชุมนุม

สำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ไทยและสหภาพยุโรปยินดีร่วมมือกันเพื่อการพัฒนาและความมีเสถียรภาพในภูมิภาค นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยต้องการให้ทุกฝ่ายในเมียนมา ใช้ความอดทนอดกลั้น และหยุดการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน รวมทั้งสนับสนุนแนวคิด D4D และฉันทามติ 5 ข้อ ของอาเซียน เพื่อนำไปสู่ความสงบสุขและเสถียรภาพในเมียนมา พร้อมเน้นย้ำว่าไทยยึดหลักการทางมนุษยธรรมมาโดยตลอด ด้วยประสบการณ์ในการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบและไม่มีการส่งกลับผู้หนีภัยความไม่สงบโดยไม่สมัครใจ ด้านเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ เชื่อมั่นว่าไทยจะสนับสนุนการแก้ปัญหาอย่างสันติ

ในช่วงท้าย ทั้งสองฝ่ายหารือถึงความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป โดยต่างยินดีที่อาเซียนและสหภาพยุโรปได้ยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะมุ่งสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ด้วยการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างสองภูมิภาคผ่านการยกระดับมาตรฐานการบิน และการบรรลุการเจรจา ASEAN-EU FTA นอกจากนี้ ไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ยินดีที่สหภาพยุโรปสนับสนุนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะกับศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue ? ACSDSD)

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ