วันนี้ (29 กรกฎาคม 2564) เวลา 14.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางอานา ลูซี เชนทิล กาบรัล เพเทอร์เซิน (H.E. Mrs. Ana Lucy Gentil Cabral Petersen) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบราซิลที่ดำเนินมาอย่างราบรื่นยาวนาน พร้อมขอบคุณเอกอัครราชทูตบราซิลฯ ที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-บราซิล ที่ผ่านมา
เอกอัครราชทูตบราซิลฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าเยี่ยมคารวะ เป็นเกียรติที่ได้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยในช่วงตลอดเกือบ 4 ปี ได้รับทั้งประสบการณ์ และความรู้ ทั้งนี้ ยินดีกับความใกล้ชิดของไทยและบราซิลในด้านการค้า ซึ่งแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 มูลค่าทางการค้าระหว่างไทยกับบราซิลยังคงเพิ่มขึ้น และตั้งเป้าหมายให้เพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตบราซิลฯ ขอให้ไทยช่วยพิจารณาผลักดันความตกลงระหว่างกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ตลอดจน ขอให้ไทยสนับสนุนบราซิลในการสมัครเป็นคู่เจรจาเฉพาะสาขาของอาเซียน (Sectoral Dialogue Partner) เพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือบราซิลกับประเทศในอาเซียนมากขึ้น
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการดำเนินนโยบายเพื่อจัดการสถานการณ์โควิด-19 และการบริหารวัคซีน โดยนายกรัฐมนตรีฝากความปรารถนาดีและส่งกำลังใจถึงนายจาอีร์ โบวโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล ขอให้ผ่านความท้าทายนี้ไปให้ได้ ซึ่งหวังว่าภายหลังจากนี้ ไทยและบราซิลจะได้ร่วมมือกันดำเนินนโยบายด้านการฟื้นฟูเน้นการสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนามาตรการด้านสาธารณสุข
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมบราซิลที่สามารถบริหารจัดการเพื่อฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนได้มากที่สุดเป็นอันดับที่สี่ของโลก ด้านเอกอัครราชทูตบราซิลฯ พร้อมสนับสนุนและประชาสัมพันธ์ให้ชาวบราซิลที่สนใจ และพร้อมปฏิบัติตามมาตรการที่ไทยกำหนด เดินทางมาท่องเที่ยว ที่ไทยตามโครงการ Phuket Sandbox และ Samui Plus
ที่มา: http://www.thaigov.go.th