วันนี้ (วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564) เวลา 15.50 น. ณ ห้องโดม ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือทางโทรศัพท์กับ นายคิชิดะ ฟูมิโอะ (H.E. Mr. Kishida Fumio) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในโอกาสที่นายคิชิดะ ฟูมิโอะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นเป็นผู้ทาบทามการหารือครั้งนี้ ภายหลังการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ ได้เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมือกับนายกรัฐมนตรีคิชิดะและรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทยญี่ปุ่นรอบด้าน โดยในปีหน้าไทย และญี่ปุ่นจะครบ 135 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุม APEC และยังเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์ อาเซียน ? ญี่ปุ่นระหว่างปี 2564 ? 2567 และในโอกาสนี้ ขอเชิญนายกรัฐมนตรีคิชิดะเดินทางเยือนไทยเพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่นสู่อนาคตต่อไป ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณสำหรับมิตรภาพและความช่วยเหลือที่มีต่อประเทศไทยเพื่อบรรเทาสถานการณ์โควิด-19
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยินดีที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ชื่นชมและเชื่อมั่นวิสัยทัศน์และการดำเนินนโยบายของนายกรัฐมนตรี ยินดีในความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นที่เป็นไปอย่างแนบแน่น และราบรื่น ชื่นชมบทบาทไทยในการเป็นประเทศผู้ประสานงานอาเซียน-ญี่ปุ่น พร้อมดำเนินความสัมพันธ์กับไทยให้ก้าวหน้า และจะพิจารณาการเดินทางเยือนไทยในปีหน้า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญ เพื่อสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทย และเพื่อโอกาสครบรอบ 135 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น
- การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รัฐบาลไทยได้ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศแก่ชาวต่างชาติฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยไม่ต้องกักตัว รวมทั้งชาวญี่ปุ่น ทั้งนี้ ขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นที่ผ่อนคลายมาตรการให้นักธุรกิจ แรงงานทักษะ และนักศึกษาจากไทย เดินทางเข้าญี่ปุ่น และขอให้ญี่ปุ่นพิจารณาผ่อนคลายมาตรการการเข้าเมืองให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชน และเพื่อเป็นโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจในทั้งสองประเทศ ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นแจ้งว่าพร้อมพิจารณาประเด็นนี้ ซึ่งจะคำนึงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ และในประเทศอื่นๆ
- การค้าการลงทุน นายกรัฐมนตรียืนยันให้ความสำคัญกับนักลงทุนญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่มีการลงทุนในไทยมากที่สุด กล่าวเชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นร่วมลงทุนเพิ่มเติมในไทยในสาขาที่มีศักยภาพเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไปด้วยกัน
- ความร่วมมือในระยะต่อไป นายกรัฐมนตรียินดีที่โมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของไทยสอดคล้องกับ Green Growth Strategy ของญี่ปุ่น ซึ่งจะจัดทำแผนยุทธศาสตร์ร่วมด้านเศรษฐกิจในการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ในระยะ 5 ปี เพื่อยกระดับและกำหนดทิศทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในสาขาที่มีศักยภาพร่วมกันในอนาคต รวมทั้ง ไทยหวังที่จะมีความร่วมมือกับญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นในด้านเทคโนโลยีและ นวัตกรรม เพื่อร่วมพลิกโฉมประเทศไทย
- ประเด็นความร่วมมือพหุภาคี ไทยพร้อมร่วมมือกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียน กับญี่ปุ่นให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างแนวคิด Free and Open Indo - Pacific (FOIP) กับมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific:AOIP) ในความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งพร้อมพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงภายใต้กรอบแม่โขง - ญี่ปุ่น (Mekong - Japan) ที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญ และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสถานการณ์ระหว่างประเทศเพื่อสันติภาพ และความสงบสุขในภูมิภาค
ที่มา: http://www.thaigov.go.th