วันนี้ (9 ธันวาคม 2564) เวลา 09.40 น. ณ ตลาดกลางสินค้าเกษตรสุพรรณบุรี ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นสักขีพยานในโอกาสที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบเงินตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนานปีการผลิต 2564 - 2565 แก่ผู้แทนเกษตรกร จำนวน 7 คน พร้อมกดปุ่มโอนเงิน ตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนานปีการผลิต 2564/2565 ทั่วประเทศ ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วม
สำหรับการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนาน ปีการผลิต 2564/65 ข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ได้มีการโอนเงินให้เกษตรกรแล้วจำนวน 631,963 ราย เป็นเงิน 12,653.18 ล้านบาท โดยในวันที่ 9 ? 13 ธันวาคม 2564 นี้ จะมีแผนการโอนเงินให้เกษตรกรอีก จำนวน 3.58 ล้านราย เป็นเงินจำนวน 64,823.51 ล้านบาท ในส่วนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจังหวัดสุพรรณบุรีได้รับเงินโอนโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 จำนวน 38,717 ราย เป็นจำนวนเงิน 829,808,027.98 บาท และมีเกษตรกรได้รับเงินโอนโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 จำนวน 59,674 ราย เป็นจำนวนเงิน 883,126,641.75 บาท
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สิ่งแรกที่นึกถึงเมื่อเดินทางมาจังหวัดสุพรรณบุรีคือเพลงเลือดสุพรรณ ชอบเนื้อร้องช่วง ?มาด้วยกันไปด้วยกัน? สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและมาตรการคู่ขนานครั้งนี้ ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ ส่วนตัวมีความห่วงใยเกษตรกรที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติและรู้ดีถึงความยากลำบากในการได้ผลผลิตมาแต่ละครั้ง ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในด้านภาคการเกษตรเป็นภาคการผลิตที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยเจริญเติบโตมาโดยตลอด ยืนยันเจตนารมณ์ของรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีวิธีการผลิตที่เหมาะสม มีรายได้ที่ดีขึ้น สร้างรอยยิ้ม สร้างความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น รัฐบาลพยายามที่จะลดต้นทุนการผลิต ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้นรวมถึงขาดแคลนแรงงานโดยใช้เทคโนโลยีดัดแปลงให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลผลิต นำมาทดแทนแรงงานที่ขาดแคลน
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านมาตรการโครงการต่าง ๆ เช่นโครงการบ้านหลังแรกให้กับประชาชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติของประชาชน ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในเรื่องของการขายสินค้าเกษตร อุปสงค์และอุปทานซึ่งเป็นตัวแปรทำให้ผลผลิตมีราคาสูง/ต่ำ แต่ที่สำคัญคืออยากให้ทุกคนยึดหลักแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมกับย้ำว่า รัฐบาลนี้ช่วยเหลือมากที่สุด มากกว่าหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะมาตรการขายข้าวให้ครบวงจร โดยเฉพาะการจัดหาตลาดกลางเพื่อขายสินค้าเกษตร ให้ความเป็นธรรมและทั่วถึง ซึ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรนำไปสู่ความมั่นคงยั่งยืน แก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สิน และให้เกษตรกรมีหลักคิดปลูกพืชอย่างระมัดระวัง ส่งเสริมปลูกพืชเศรษฐกิจ มากกว่าการปลูกพืชหมุนเวียน
นายกรัฐมนตรียอมรับว่าราคาข้าวผันผวนตลอดเวลาเนื่องจากต้องแข่งขันกับต่างประเทศ โดยเฉพาะข้าวในประเทศไทยที่มีราคาสูง สู้ราคาตลาดโลก ที่ราคาต่ำไม่ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดต้นทุนการผลิต ให้มีกำไร โดยเรื่องนี้รัฐบาลไม่เคยหยุดคิด เน้นในเรื่องของการปลูกข้าวที่มีคุณภาพและมีตลาดรองรับ พร้อมผลักดันนโยบายให้เกษตรกรเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ติดตามต้นแบบที่ปลูกข้าวได้มีราคาด้วยการสร้างกระบวนการเรียนรู้
นายกรัฐมนตรียังขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือทำงานเพื่อเกษตรกร และกำชับให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ พร้อมกล่าวอวยพรในโอกาสปีใหม่ ขอให้ชาวสุพรรณบุรีทุกคนมีความสุข มีแต่ความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้พบปะเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการรวบรวมข้าวเปลือก จากสมาชิกสหกรณ์ตามโครงการมาตรการคู่ขนานในพื้นที่ดำเนินงานของตลาดกลางสินค้าเกษตรสุพรรณบุรี ก่อนเดินทางกลับ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th