นายกฯ หารือ เลขาฯ องค์การสันนิบาตมุสลิมโลกชื่นชมสังคมพหุวัฒนธรรมของไทย พร้อมสนับสนุนการทำงานของไทยในการสร้างความปรองดอง และสันติภาพในประเทศและในโลกต่อไป

ข่าวทั่วไป Monday February 14, 2022 14:26 —สำนักโฆษก

?นายกฯ หารือ เลขาฯ องค์การสันนิบาตมุสลิมโลกชื่นชมสังคมพหุวัฒนธรรมของไทย พร้อมสนับสนุนการทำงานของไทยในการสร้างความปรองดอง และสันติภาพในประเทศและในโลกต่อไป

วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2565) เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลดร. มุฮัมมัด บิน อับดุลกะรีม อัลอีซา (Dr. Mohammad bin Abdulkarim Al-Issa) เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกเดินทางเยือนไทย ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือที่ดีระหว่างกัน ไทยชื่นชมความเป็นผู้นำทางศาสนา และสนับสนุนแนวทางอิสลามสายกลางของซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างระหว่างศาสนิกชนต่างศาสนา พร้อมหวังว่า การเยือนไทยครั้งนี้จะนำไปสู่ความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายต่อไป

ไทยยินดีที่เลขาธิการฯ ให้ความสนใจในความเป็นพหุสังคมของไทย ที่ประกอบไปด้วยผู้คนต่างศาสนาที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำว่า ไทยพร้อมสนับสนุนภารกิจขององค์การสันนิบาตมุสลิมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามหลักของศาสนาอิสลาม และเป็นสะพานในการพูดคุยระหว่างผู้คนที่หลากหลายที่จะนำมาซึ่งสันติภาพ ความยุติธรรม และการอยู่ร่วมกัน จึงหวังว่าการเยือนของเลขาธิการฯ ในครั้งนี้จะช่วยนำมาซึ่งความแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับโลกมุสลิม

ด้านเลขาธิการฯ กล่าวขอบคุณ และยินดีที่การเยือนไทยในครั้งจะช่วยเสริมสร้างและขยายเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศไทยและส่งเสริมปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ระหว่างผู้คนที่มีประเพณีทางศาสนาที่ต่างกัน เลขาธิการฯ รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เยือนไทยในครั้งนี้ ก่อนที่จะเดินทางมาได้ศึกษาประวัติและเห็นถึงความเข้มแข็งของสังคมไทย เป็นหนึ่งในความสนใจในการเดินทางเยือนประเทศไทย

โดยเลขาธิการฯ เห็นว่าประเทศไทยมีจุดแข็งและมีลักษณะที่น่าชื่นชมคือ การมีปฏิสัมพันธ์ที่หลากหลายของสังคมพหุวัฒนธรรม ไม่ปรากฎข้อขัดแย้ง ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐาน 3 ประการ ได้แก่ การอบรมในระดับครอบครัว ระดับศาสนาและศีลธรรม และในระดับสถานบันการศึกษา ทำให้สังคมไทยน่าชื่นชม และเป็นตัวอย่างที่ดีในการอยู่อย่างปรองดองของพหุวัฒนธรรม ทั้งนี้ เลขาธิการฯ กล่าวยืนยันและพร้อมสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือ และเป็นสะพานพูดคุย เพื่อให้เกิดสันติภาพ และสันติสุขในประเทศ ซึ่งในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ของไทยด้วย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยสามารถเป็นแกนกลางเชื่อมอาเซียนกับประเทศมุสลิม โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเดินหน้าความร่วมมือให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย รวมถึงกับองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกด้วย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ