นายกรัฐมนตรีระบุหากการประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ คงต้องมีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวในบางประเด็น
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาผลกระทบจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาหารือ เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ส่งเอกสารต้นฉบับของปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวมาให้ แต่ส่งสำเนามา จึงไม่ได้นำเรื่องเข้าหารือใน ครม. อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ประกอบการมาร้องทุกข์ว่ากฎหมายดังกล่าวปฏิบัติไม่ได้อย่างแน่นอน คงจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ปฏิบัติได้ แต่จะแก้ไขประเด็นใดบ้างคงไม่ลงรายละเอียด แต่ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เสนอประเด็นที่เป็นปัญหามา เพราะขณะนี้กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก็ไม่มีทางอื่นที่จะทำได้ นอกจากต้องเสนอแก้ไขกฎหมายอย่างเดียว เมื่อรู้ว่ากฎหมายใช้ไม่ได้ก็ต้องแก้ไข เพราะมีผู้เดือดร้อนเป็น 10 สมาคม คงไม่จำเป็นต้องให้กฎหมายบังคับใช้มา 1 ปีหรือ 2 ปีแล้วค่อยแก้ ถ้าบังคับใช้เพียงวันเดียวแล้วใช้ไม่ได้ก็ต้องแก้ไข
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีข่าวว่าพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหานายกรัฐมนตรีทุจริตโครงการจ้างเหมาเอกชนขนขยะมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร สมัยเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า ถือเป็นความเข้าใจผิด ซึ่งเรื่องนี้มีการกล่าวหามาตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้ว นอกจากเรื่องการจัดซื้อรถดับเพลิงแล้ว ยังนำเรื่องขยะซึ่งใช้มา 3 ปีมากล่าวหาอีก ทั้งที่ความจริง กทม.ได้ตรวจสอบแล้ว และไม่มีอะไรพาดพิงถึงตนเท่าไร “ผมเป็นนักการเมือง คนที่จะสอบได้คือ ป.ป.ช. ตำรวจสอบไม่ได้ ซึ่ง ป.ป.ช. ก็สอบมาตลอด ไม่เลิก จนกระทั่งวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการกล่าวหาตน และตั้งอนุกรรมการตรวจสอบผม ซึ่งผมก็ยังตกเป็นจำเลยในคดีนี้อยู่ และ ป.ป.ช. ก็ยื่นรายชื่อบุคคล 7 คน ที่จะมาสอบผม มาให้ตรวจสอบว่าจะคัดค้านหรือไม่ ผมก็ขอเลื่อนการตรวจสอบออกไป 15 วัน เพราะเดินทางตลอด ไม่มีเวลา วันที่ 22 มีนาคมนี้จะครบกำหนด ก็จะบอก ป.ป.ช. ว่าจะทักท้วงบุคคลใดบ้าง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. ดำเนินการมาแล้วครึ่งปี ไม่ใช่เพิ่งมายื่นฟ้องกันใหม่ตอนนี้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาผลกระทบจากการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาหารือ เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ส่งเอกสารต้นฉบับของปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวมาให้ แต่ส่งสำเนามา จึงไม่ได้นำเรื่องเข้าหารือใน ครม. อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ประกอบการมาร้องทุกข์ว่ากฎหมายดังกล่าวปฏิบัติไม่ได้อย่างแน่นอน คงจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ปฏิบัติได้ แต่จะแก้ไขประเด็นใดบ้างคงไม่ลงรายละเอียด แต่ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เสนอประเด็นที่เป็นปัญหามา เพราะขณะนี้กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก็ไม่มีทางอื่นที่จะทำได้ นอกจากต้องเสนอแก้ไขกฎหมายอย่างเดียว เมื่อรู้ว่ากฎหมายใช้ไม่ได้ก็ต้องแก้ไข เพราะมีผู้เดือดร้อนเป็น 10 สมาคม คงไม่จำเป็นต้องให้กฎหมายบังคับใช้มา 1 ปีหรือ 2 ปีแล้วค่อยแก้ ถ้าบังคับใช้เพียงวันเดียวแล้วใช้ไม่ได้ก็ต้องแก้ไข
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีข่าวว่าพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหานายกรัฐมนตรีทุจริตโครงการจ้างเหมาเอกชนขนขยะมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร สมัยเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า ถือเป็นความเข้าใจผิด ซึ่งเรื่องนี้มีการกล่าวหามาตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้ว นอกจากเรื่องการจัดซื้อรถดับเพลิงแล้ว ยังนำเรื่องขยะซึ่งใช้มา 3 ปีมากล่าวหาอีก ทั้งที่ความจริง กทม.ได้ตรวจสอบแล้ว และไม่มีอะไรพาดพิงถึงตนเท่าไร “ผมเป็นนักการเมือง คนที่จะสอบได้คือ ป.ป.ช. ตำรวจสอบไม่ได้ ซึ่ง ป.ป.ช. ก็สอบมาตลอด ไม่เลิก จนกระทั่งวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการกล่าวหาตน และตั้งอนุกรรมการตรวจสอบผม ซึ่งผมก็ยังตกเป็นจำเลยในคดีนี้อยู่ และ ป.ป.ช. ก็ยื่นรายชื่อบุคคล 7 คน ที่จะมาสอบผม มาให้ตรวจสอบว่าจะคัดค้านหรือไม่ ผมก็ขอเลื่อนการตรวจสอบออกไป 15 วัน เพราะเดินทางตลอด ไม่มีเวลา วันที่ 22 มีนาคมนี้จะครบกำหนด ก็จะบอก ป.ป.ช. ว่าจะทักท้วงบุคคลใดบ้าง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. ดำเนินการมาแล้วครึ่งปี ไม่ใช่เพิ่งมายื่นฟ้องกันใหม่ตอนนี้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--