นายกฯ เปิดงานวันสตรีสากลปี 2565 ยืนยัน รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันพลังของสตรี ให้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมของประเทศ

ข่าวทั่วไป Tuesday March 8, 2022 14:41 —สำนักโฆษก

?นายกฯ เปิดงานวันสตรีสากลปี 2565 ยืนยัน รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันพลังของสตรี ให้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมของประเทศ ขอบคุณ พม.-ทุกภาคส่วนที่เป็นกำลังสำคัญเสริมสร้างศักยภาพหญิงไทย ยกระดับสิทธิ คุ้มครอง ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในทุกมิติ

วันนี้ (8 มี.ค. 65) เวลา 14.50 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในงานวันสตรีสากล ประจำปี 2565 โดยมีรูปแบบการจัดงานในลักษณะ Hybrid Conference ซึ่งเป็นการผสมผสานการจัดงานที่มีผู้เข้าร่วมงานทั้งภายในห้องประชุม และผู้เข้าร่วมงานผ่านระบบ Online ภายใต้แนวคิด ?เสริมพลังสตรี ร่วมตัดสินใจ ลดผลกระทบภัยพิบัติจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม? พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรดีเด่นสาขาต่าง ๆ เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2565 จำนวน 58 รางวัล เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นแบบอย่างกับสตรีทำงานคนอื่น ๆ ได้ตระหนักถึงคุณค่าของตน รู้จักพัฒนาความรู้ความสามารถให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม รวมถึงประเทศชาติ โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และผู้บริหารกระทรวง เข้าร่วมงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญของผู้หญิงและจัดงานวันสตรีสากลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการให้เกียรติ ยกย่องบทบาทต่าง ๆ ของผู้หญิง และสร้างความเสมอภาคในทุกมิติ อีกทั้งยังมุ่งมั่นผลักดันพลังของสตรีให้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ด้วยการยกระดับสวัสดิการสตรี ส่งเสริมการเข้าถึงโอกาส และการลดภาระต่าง ๆ ของผู้หญิง เพื่อให้ผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถประกอบอาชีพและสร้างรายได้ได้อย่างมั่นคง ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของสตรีทั่วประเทศและประชาชนชาวไทยอย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมและแสดงความยินดีกับสตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรดีเด่นทุกองค์กร ที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นสตรีผู้เสียสละเพื่อสังคม และขอบคุณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนทุกหน่วยงาน ตลอดจนภาคีทุกภาคส่วน ที่เป็นกำลังสำคัญเสริมสร้างศักยภาพของหญิงไทยให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน รวมทั้งมุ่งมั่นยกระดับสิทธิ คุ้มครอง และส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในทุกมิติ ซึ่งเรื่องดังกล่าวล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรณรงค์และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และเป็นที่น่าภาคภูมิใจที่ประเทศไทยได้ดำเนินการขับเคลื่อนและให้ความสำคัญตลอดมา นายกรัฐมนตรียังแสดงความห่วงใยในการใช้สื่อโซเชียล เน้นย้ำถึงการใช้สื่อโซเชียลอย่างมีภูมิต้านทาน ใช้หลักคิด พิจารณา ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนในการรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ พร้อมทั้งขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องสตรีไทย และพี่น้องผู้ต้องขังหญิง โดยขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนรู้ มุ่งมั่นฝึกฝนทักษะอาชีพที่เป็นประโยชน์ และตั้งปณิธานในการทำความดี เพื่อนำความรู้ที่สะสมไว้มาเป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวต่อไป และเชื่อมั่นว่าพลังของสตรีจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะช่วยให้สังคมสงบสุข และปลอดภัย

ภายหลังพิธีมอบรางวัลฯ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภายใต้การกำกับดูแลของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ผลงานจากกลุ่มสตรีต่าง ๆ ได้แก่ กลุ่มสตรีบ้านสันทองหลวง อำเภอแม่จันจังหวัดเชียงราย ผลิตภัณฑ์งานจักสานจากกระจูด จังหวัดอ่างทอง ผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานจากใบเตยหนามจังหวัดศรีสะเกษ ผลิตภัณฑ์งานจักสานจากผักตบชวา จังหวัดอ่างทอง กระเป๋าสานกระจูดเพนท์จากจังหวัดสงขลา และผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมครามจากจังหวัดขอนแก่น พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบผลิตภัณฑ์จากร้านโกดังชาบู ซึ่งเป็นร้านค้าที่ประสบปัญหาและกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้เข้าไปดูแลฟื้นฟูกิจการ ให้ความรู้ด้านการตลาด และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายด้วย

ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปีเป็นวันสตรีสากล และเชิญชวนให้ประเทศสมาชิกจัดกิจกรรมเพื่อร่วมเฉลิมฉลองและรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรี เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม ความเสมอภาค สันติภาพ และการพัฒนา รวมถึงการทบทวนความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านสิทธิสตรี โดยรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตสตรีมาโดยตลอด ส่งเสริมการจัดสวัสดิการนอกเหนือกฎหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสตรีมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสนับสนุนให้สตรีได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม สำหรับงานวันสตรีสากล ประเทศไทยได้เริ่มจัดกิจกรรมวันสตรีสากลเป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 33 ปี เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ แก่สตรี บุคคล และหน่วยงานที่มีผลงานดีเด่นด้านการพัฒนาศักยภาพของสตรี ตลอดจนผสานพลังกับทุกภาคส่วนของสังคมไทยให้สร้างการมีส่วนร่วมของสตรีในการพัฒนาประเทศ

สำหรับการจัดงานสตรีสากลในปีนี้ ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ?เสริมพลังสตรี ร่วมตัดสินใจ ลดผลกระทบภัยพิบัติจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม? เพื่อให้ผู้หญิงมีบทบาทพื้นที่ และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจร่วมกับสังคมและส่วนรวมอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะนโยบายการสร้างการมีส่วนร่วมด้านสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติธรรมชาติ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น พลังและความคิดเห็นของผู้หญิงจะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการแก้ปัญหาและลดผลกระทบภัยพิบัติจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ในภายภาคหน้า นอกจากนี้ การเสริมสร้างความเข้มแข็งและพลังของผู้หญิงยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่สังคมและประเทศชาติอีกด้วย

------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ