รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน-สภาประชาชน 4 ภาค กำชับเร่งรัดกระบวนการทำงานให้รวดเร็ว ย้ำรัฐบาลทำงานอย่างจริงจัง จริงใจ

ข่าวทั่วไป Monday April 25, 2022 14:42 —สำนักโฆษก

รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน-สภาประชาชน 4 ภาค กำชับเร่งรัดกระบวนการทำงานให้รวดเร็ว ย้ำรัฐบาลทำงานอย่างจริงจัง จริงใจ เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

วันนี้ (25 เม.ย. 65) เวลา 10.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) และสภาประชาชน 4 ภาค ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปสาระสำคัญดังนี้

ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของประชาชน และเกษตรกรทั่วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อน ของแต่ละประกอบด้วย 4 คณะอนุกรรมการ ดังนี้

1. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและป่าไม้ การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรที่เกิดจากการเช่าซื้อที่ดินโครงการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่ง ส.ป.ก. ได้มีการปรับปรุงข้อกฎหมายเพื่อสามารถเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาเช่าแล้ว พร้อมมอบหมายหน่วยงานในพื้นที่ 18 จังหวัด สำรวจความประสงค์ของเกษตรกรให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ ความคืบหน้ากรณีการจัดหา หรือจัดซื้อที่ดินเพื่อนำมาจัดสรรให้กับสมาชิกสภาเครือข่ายฯ และการจัดที่ดินให้แก่สมาชิกเครือข่ายในพื้นที่แปลงว่าง 1,747 ไร่

2. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ในการขอความร่วมมือสถาบันเจ้าหนี้เพื่อชะลอการดำเนินคดี อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) สมาคมธนาคารไทย อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ก.ย.ศ) รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้ของสภาเครือข่ายฯ ทั้งในระบบและนอกระบบ โดยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้เสนอโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรสมาชิกกองทุนฯ ซึ่งเป็นการซื้อหนี้ของเกษตรกรสมาชิกตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข และการเสนอโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินของสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) และสภาประชาชน 4 ภาค โดยจัดตั้งเป็นกองทุนซื้อหนี้ให้แก่สมาชิกเครือข่ายฯ

3. คณะอนุกรรมการส่งเสริมและฟื้นฟูอาชีพภาคเกษตร มีความคืบหน้าการปรับปรุงโครงการและแนวทางการส่งเสริมและฟื้นฟูอาชีพภาคเกษตรในภาพรวมแก่สภาเครือข่าย โดยนำร่อง 3 ศูนย์ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ลพบุรี และนครราชสีมา จังหวัดละ 1 ศูนย์ จะพิจารณาจัดเข้าแผนงานปกติของหน่วยงานเพื่อดำเนินการในแต่ละปีตามความเหมาะสม

4. คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำทั้งระบบ ในโครงการจัดการจัดหาแหล่งน้ำผิวดินในพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัด รวม 9 โครงการ ประกอบด้วยพื้นที่จังหวัดลพบุรี 2 โครงการ จังหวัดนครราชสีมา 3 โครงการ และจังหวัดเพชรบุรี จำนวน 4 โครงการ โดยคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติงบกลางฯ เพื่อดำเนินงานจำนวน 3 โครงการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ส่วนในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และเพชรบุรี ได้ประสานกรมชลประทานเร่งรัดดำเนินการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป

เพื่อให้มีการขับเคลื่อนงานในส่วนของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่กลุ่มเกษตรกรสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) สภาประชาชน 4 ภาค ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมและฟื้นฟูอาชีพภาคเกษตร แทนนายสุทธิชัย จรูญเนตร กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ลาออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งนายอดิศร นุชดำรง อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและปาไม้ แทนร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี รวมทั้งเห็นชอบเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและป่าไม้ โดยเพิ่มรายชื่อผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ในลำดับที่ 22 นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) และสภาประชาชน 4 ภาค (คนที่ 2) แทนนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ (นายเสกสกล อัตถาวงศ์) ที่ได้ขอลาออกและพ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด เร่งรัดกระบวนการทำงานให้รวดเร็ว ย้ำว่ารัฐบาลทำงานอย่างจริงจัง จริงใจ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีที่อยู่อาศัย และมีสิทธิในการทำหน้าที่ประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมเน้นย้ำให้สำนักงบประมาณ ติดตามการดำเนินงานเบิกจ่ายงบลงทุนที่เกี่ยวข้องกับแผนการดำเนินงานที่สำคัญให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบอย่างเคร่งครัด และให้นำข้อสังเกตของคณะกรรมการฯ ไปประกอบการพิจารณาและเป็นแนวทางในการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย สำเร็จเป็นรูปธรรมต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ